เที่ยวชิราคาวาโกะ เดือนไหนดี ที่นี่มีคำตอบ
หมู่บ้านชิราวาคาโกะ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศมุ่งมั่นตั้งใจจะมาเยือน บรรยากาศของที่นี่มีความเป็นหมู่บ้านชาวนาเก่าแก่ที่อนุรักษ์สิ่งก่อสร้างแบบดั้งเดิมอันเป็นมรดกของโลกเอาไว้ตั้งแต่ในอดีตจวบจนปัจจุบัน โดยจุดเด่นของที่นี่ก็คือบ้านทรง กัสโซ ที่มีความชันถึง 60 องศาคล้ายกับการพนมมือเข้าหากัน ซึ่งวัสดุในการสร้างบ้านนั้นล้วนนำมาจากธรรมชาติ
ใครที่กำลังวางแผนจะมาเที่ยวชิราคาวาโกะ แล้วยังไม่รู้ว่าจะเที่ยวชิราคาวาโกะ เดือนไหนดี เราบอกได้เลยว่า สามารถมาเที่ยวได้ในทุกช่วงฤดูกาลเลยค่ะ เพราะแต่ละฤดูก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป
- ฤดูหนาว: เป็นช่วงพีคที่สุด เพราะเป็นช่วงที่หมู่บ้านมีหิมะสีขาวปกคลุมอย่างสวยงาม และมีช่วงประดับไฟ (Shirakawago Winter Light-Up) ในระหว่างเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ (จะมีการประกาศวันที่แน่นอนในแต่ละปี)
- ฤดูใบไม้ผลิ: มีไฮไลท์อยู่ที่ช่วงปลายเดือนเมษายน – ต้นพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ซากุระบานสีชมพูหวานๆ กำลังบานสะพรั่ง
- ฤดูร้อน: ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม – ต้นเดือนกันยายนเป็นช่วงที่ทุ่งนากำลังเขียวชะอุ่ม อากาศกำลังดี ไม่ร้อนจนเกินไป
- ฤดูใบไม้ร่วง: ช่วงที่เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสีอยู่ที่ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงที่หมู่บ้านมีหลากสีสันสวยงามมากๆ
ฤดูใบไม้ผลิ : ซากุระบานสะพรั่ง
เดือนมีนาคม – พฤษภาคม
เราก็จะได้เห็นความสวยงามของหมู่บ้านชิราคาวาโกะที่รายล้อมไปด้วยต้นซากุระสีชมพู เดินเที่ยวง่ายหน่อย ดูแห้งๆ แต่สีซากุระก็ช่วยให้อ่อนโยนขึ้น แน่นอนว่า ถ่ายรูปสวยได้ทุกที่เลยทีเดียว ยิ่งมีซากุระเป็นแบ็คกราวน์ บอกเลยว่าได้รูปสวยฟินๆ กลับมาอย่างแน่นอน สำหรับดอกซากุระที่นี่ จะเริ่มบานในช่วงกลางเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม
ฤดูร้อน : ทุ่งนาเขียวขจี
เดือนมิถุนายน – สิงหาคม
พอเข้าสู่ฤดูร้อนของชิราคาวาโกะ ทั่วทั้งหมู่บ้านก็จะเต็มไปด้วยนาข้าว ต้นไม้เขียวชอุ่ม อากาศดีๆ และยังมีช่วงการฉีดน้ำขึ้นหลังคาบ้านให้ได้เห็นอีกด้วยค่ะ ถ้าอยากเห็นความเขียวชอุ่มของท้องทุ่งนา ก็ให้มาเที่ยวช่วงหน้าร้อน ประมาณกลางเดือนกรกฎาคม – ต้นเดือนกันยายน แถมอากาศก็ไม่ร้อน ไม่หนาวจนเกินไป ท้องฟ้าแจ่มใส และมีดอกไม้หลากหลายชนิดให้ชม บรรยากาศสวยงามไปอีกแบบ
ฤดูใบไม้ร่วง : ใบไม้เปลี่ยนสีหลากสีสัน
เดือนกันยายน – พฤศจิกายน
บรรยากาศจะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี ดูแล้วสดชื่น น่าเที่ยวสุดๆ !! ต้นไม้ ใบไม้ต่างๆ ทั้งหมู่บ้านจะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง สีน้ำตาล ถือได้ว่า หมู่บ้านชิราคาวาโกะนั้นเป็นอีกแห่งสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีได้สวยงามมากๆ ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ถ้าอยากไปเที่ยวหมู่บ้าน ชิราคาวาโกะ ใบไม้เปลี่ยนสี ต้องไปช่วงไหน หรือเดือนไหน? สำหรับช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่จะเริ่มตั้งแต่ ต้นเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงประมาณกลางเดือน ซึ่งช่วงนี้อากาศก็จะเย็นลง แต่ไม่ถึงกับหนาวจัด อยู่ที่ประมาณ 15-18 องศาเซลเซียส หรือต่ำกว่านี้นิดหน่อยเนื่องจากอยู่ในภูเขา ซึ่งหลายคนอาจจะเคยเห็นภาพสวยๆ ของหมู่บ้านชิราคาวาโกะที่เต็มไปด้วยหิมะหนาๆ ในฤดูหนาวช่วงต้นปี แต่บอกเลยว่า ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่ก็น่าเที่ยวไม่แพ้กัน วิวสวย บรรยากาศดี อากาศสบายๆ เที่ยวง่าย ไม่ต้องเดินลุยหิมะหนาๆ เลยค่ะ
บรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสี ในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
หลังจากเข้ามาในพื้นที่ภายใน ก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศสวยๆ ของหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ทั้งภูเขา ต้นไม้ แปลงนา ลำน้ำเล็กๆ รวมไปถึงบ้านโบราณต่างๆ
จุดชมวิวมุมสูงที่สามารถมองเห็นหมู่บ้านได้ทั้งหมด แนะนำว่ามาถึงแล้วไม่ควรพลาด เพราะจะได้วิวไฮไลท์ของหมู่บ้านแห่งนี้ โดยจุดชมวิวนี้อยู่บนภูเขา จะรอรอบรถบัสเพื่อขึ้นไปชมก็ได้ หรือถ้าใครมีเวลาก็สามารถเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวได้เลยค่ะ ทางเดินไม่ลำบาก อาจจะมีบางส่วนลาดชันเล็กน้อย แต่ระหว่างทางจะได้ชมวิวหมู่บ้านที่ค่อยๆ สูงขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วยนะ
ฤดูหนาว : หิมะสีขาว กับแสงไฟยามค่ำคืน
เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์
ช่วงฤดูหนาวนี้เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวหลายคนเฝ้ารอ เพราะหิมะสีขาวโพลนจะปกคลุมไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ให้บรรยากาศญี่ปุ่นในสมัยโบราณได้ดีมากๆ ด้วยความที่ปกติแล้วหมู่บ้านชิราคาวาโกะก็มีชื่อเสียงถึงมนต์เสน่ห์ความมีเอกลักษณ์แบบดั้งเดิมที่ชวนน่าหลงใหลอยู่แล้ว ยิ่งบวกกับช่วงฤดูหนาวหิมะฟูๆปกคลุมพาให้เพิ่มมนต์ขลังมากขึ้นไปอีก อีกทั้งยังมีงานเทศกาลฤดูหนาว ช่วงกลางคืนที่จะมีทำการประดับประดาแสงไฟให้สวยงามทั่วหมู่บ้านในเวลากลางคืน ชื่อว่า งานแสดงไฟ Shirakawago Light Up ค่ะ ซึ่งปีหนึ่งจะมีเปิดไฟอยู่ 6 วัน ตั้งแต่กลางเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์
เพื่อลดปัญหาความแออัด นักท่องเที่ยวที่สนใจเช้าชม Light Up ต้องทำการจองล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ shirakawa-go เท่านั้น ซึ่งมีให้เลือกจอง 4 อย่างด้วยกัน คือ
1. จองที่พัก : สำหรับคนที่ต้องการพักค้างคืน ให้ส่งใบสมัครการจองภายในเดือนสิงหาคม และหากได้รับการคัดเลือกเป็นผู้มีสิทธิ์เข้าพัก จะได้รับอีเมลยืนยันในเดือนกันยายน
2. จองที่จอดรถ : สำหรับคนที่ขับรถไปเอง (One Day Trip) เปิดให้จองที่จอดรถในช่วงกลางเดือนกันยายน โดยมีค่าธรรมเนียมรวมที่จอดรถ อยู่ที่ 4,000 เยนต่อคัน (1-10 คน) และค่าขึ้นจุดชมวิวอีก 1,000 เยน ต่อคน
3. จองรถทัวร์ : ติดต่อและจองผ่านเอเจนท์หรือบริษัททัวร์โดยตรง
4. จองรถบัส : เนื่องจากในวันงาน Shirakawago light up จะไม่มีรถบัสสาธารณะให้บริการหลังเวลา 17.30 น. ยกเว้นบางบริษัทรถบัสที่ให้บริการเป็นพิเศษเฉพาะเทศกาลนี้ ซึ่งต้องจองล่วงหน้ากับทางบริษัทรถบัสนั้น ๆ โดยตรง
ข้อควรรู้ และกฏระเบียบ ก่อนการเที่ยวหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
- สำหรับคนที่มาเที่ยวหมู่บ้านแบบ Day Trip แต่ไม่ได้ชม Light Up ในตอนค่ำ ต้องออกจากหมู่บ้านก่อนเวลา 17.00 น.
- มี Shuttle Bus รับส่งไปยังจุดชมวิวด้านบน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 14.40 น.
- จุดชมวิวด้านบนของหมู่บ้าน ปิดเวลา 15.00 น.
- มีลานจอดรถสองจุด คือ Seseragi Parking และ Terao Parking (ชั่วคราว)
- หมูบ้านชิราคาวาโกะ เป็นชุมชนที่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ ฉะนั้นห้ามใช้โดรนถ่ายภาพอย่างเด็ดขาด และไม่รุกล้ำเข้าพื้นที่บ้าน สวน หรือไร่นาของชาวบ้าน
การแต่งกาย
อีกสิ่งหนึ่งที่เราควรต้องมีการเตรียมพร้อมดีๆนั่นก็คือการแต่งตัวในช่วงนี้ เพราะฤดูหนาวที่นี่หนาวโหดเอาเรื่องแถมช่วงกลางคืนยังหนาวกว่ากลางวันพอตัว ดังนั้นการแต่งตัวควรแต่งกันแบบจัดเต็มเพราะอุณภูมิเฉลี่ยจะประมาณ 0 องศาไปจนถึง -10 องศาเลย และถ้าเป็นไปได้ควรใส่รองเท้าเดินในหิมะไปด้วย เสื้อผ้า ถุงมือ รองเท้า ผ้าพันคอ อุปกรณ์กันหนาวต่างๆ ควรพกแบบจัดเต็มไปเลย
เริ่มจากฮีทเทค ตามด้วยเสื้อไหมพรมขนสัตว์ เสื้อโค้ตผ้าขนสัตว์ และกางเกงหนาๆ หรือกางเกงบุขนสัตว์ ถุงมือ ถุงเท้า ผ้าพันคอ และหมวก คนขี้หนาวแนะนำสวมลองจอนอีกชั้นหลังฮีทเทคและสวมที่ปิดหูทับหมวกอีกที
อีกหนึ่งไอเทมช่วยชีวิตที่เพิ่มเข้ามาคือเสื้อขนเป็ด หรือ Down jacket หรือที่คนชอบเรียก “เสื้อแหนม” อุ่นจริงแถมกันลม แต่สาวๆ อาจยอมกัดฟันทนหนาวเพราะมันจะทำให้ตัวเป็นปล้องๆ เหมือนมิชชาลิน แต่ถ้าเลือกดีๆ ก็มีที่ทรงสวยสีสวยอยู่นะ หรือจะเป็นโค้ทขนสัตว์ฟูๆ นอกจากจะดูหรูและยังอุ่นคอด้วย
การเดินทางไปชิราคาวาโกะ
การเดินทางไปยังหมู่บ้านชิราคาวาโกะสามารถทำได้หลายวิธี หนึ่งในวิธีที่สะดวกที่สุดคือการใช้บริการขนส่งสาธารณะ เช่น รถบัสหรือรถไฟ คุณสามารถเดินทางจากเมืองนาโกย่า โตเกียว หรือโอซาก้าได้อย่างง่ายดาย โดยใช้บริการรถไฟชิงกันเซ็นแล้วต่อรถบัสไปยังหมู่บ้านชิราคาวาโกะ สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและมั่นใจว่าจะไม่หลงทาง สามารถดูรายละเอียดวิธีการเดินทางได้ที่นี่ –> วิธีเดินทางไปชิราคาวาโกะ ง่ายๆ ไม่มีหลง และสามารถซื้อ Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass ได้ที่ [คลิกซื้อผ่าน KKday]
การซื้อทัวร์หมู่บ้านชิราคาวาโกะ
หากคุณต้องการการเดินทางที่สะดวกและมีการจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย การเลือกซื้อทัวร์หมู่บ้านชิราคาวาโกะเป็นตัวเลือกที่ดี ทัวร์เหล่านี้มักจะรวมบริการขนส่งไปกลับ พร้อมทั้งไกด์นำเที่ยวที่คอยให้ข้อมูลและดูแลคุณตลอดการเดินทาง คุณสามารถซื้อตั๋วทัวร์หมู่บ้านชิราคาวาโกะได้ที่ [คลิกซื้อผ่าน KKday] ซึ่งคุณจะได้สัมผัสความสวยงามของชนบทญี่ปุ่น ที่ชิราคาวาโกะ (Shirakawago) และเดินชมสถาปัตยกรรมโบราณที่เมืองเก่าฮิดะทาคายามะ (Hida Takayama) ในจังหวัดกิฟุ
การเลือกช่วงเวลาในการเที่ยวหมู่บ้านชิราคาวาโกะขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเลือกไปในฤดูไหน คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามและเสน่ห์เฉพาะตัวของหมู่บ้านนี้อย่างแน่นอน