แหล่งช้อปปิ้งโอซาก้า ยอดฮิตมากมายตั้งกระจายตัวอยู่ทั่วเมืองเปิดกันตั้งแต่เช้าจนดึกรอให้สาวกนักช้อปทั้งหลายได้ไปเดินเล่นเลือกซื้อเลือกหาตั้งแต่สินค้าแฟชัน ของฝาก ของกินของใช้หรือสินค้าพื้นเมืองดั้งเดิมก็มีให้เลือกสรร เราขอแนะนำ เปิดลายแทง 7 แหล่งช้อปปิ้งโอซาก้า สวรรค์สำหรับนักช้อป คัดมาแบบคุณภาพคับแก้ว อยากได้อะไร ซื้อของที่ไหนดี มาดูกันเลยจ้า
เปิดลายแทง 7 แหล่งช้อปปิ้งโอซาก้า สวรรค์สำหรับนักช้อป
1. ย่านนัมบะ(Namba) : ศูนย์กลางแหล่งบันเทิง และร้านชอปปิ้ง
นัมบะ (Namba) ถือได้ว่าเป็นย่านศูนย์กลางแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้า ไม่แพ้ย่าน อูเมะดะ (Umeda) เพราะในย่านนี้จะเต็มไปด้วยร้านอาหาร แหล่งบันเทิง ร้านค้าช้อปปิ้งต่างๆ มากมาย ให้ทุกคนได้เลือกแวะเลือกชมกันหน้ามืดตามัวเลยทีเดียว รวมถึงการถ่ายรูปกับป้ายยอดฮิตนั้นคือ ป้ายกูลิโกะ ด้วย นัมบะ เป็นแหล่งบันเทิง จุดต่อรถไฟ ย่านท่องเที่ยว และ ย่านชอปปิ้งที่สำคัญในโอซาก้า อยู่ใกล้กับสถานี Namba หรือ ทางด้านทิศใต้ของ Osaka Loop Line ย่านนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ามินามิ สำหรับย่านชอปปิ้งในนัมบะที่โด่งดังคือ
- นัมบะ วอล์ค (Namba walk) อยู่ชั้นใต้ดินเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟนัมบะ รูปแบบจะคล้ายห้าง มีร้านค้าหลายร้าน ติดแอร์
- โดทงโบริ (Dotonbori) บริเวณริมคลองโดทงโบริ แหล่งรวมความบันเทิง ร้านอาหาร ร้านค้า ร้านชอปปิ้ง จุดเด่นคือ ป้าย Glico
- ชินไซบาชิ (Shinsaibashi) เป็นทางเดินมีหลังคา ยาว 600 เมตร มีร้านค้าอยู่ 2 ฝั่ง แหล่งชอปปิ้งสุดฮิต มีทั้งร้านยา ร้านแบรนด์เนมยอดนิยม และอีกหลากหลายร้าน
- นิปปอนบาชิ (Nipponbashi) หรือ เดน เดน ทาวน์ (Den Den Town) อยู่ทางด้านทิศเหนือของสถานี Ebisucho แหล่งรวมเครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่น โมเดล ฟิกเกอร์ ถ้าเปรียบกับโตเกียว ย่านนี้ก็เหมือน Akihabara
นัมบะ วอล์ค (Namba walk)
อยู่ชั้นใต้ดินเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟนัมบะ รูปแบบจะคล้ายห้าง มีทั้งร้านอาหาร และร้านค้าเพื่อช้อปปิ้ง ทอดยาวตลอดสายซึ่งตั้งอยู่ใต้ดินของย่านนัมบะ อีกทั้งนัมบะวอร์ค ยังเป็นเส้นทางเดินที่สามารถเดินเชื่อมสถานีรถไฟของนัมบะที่มีอยู่ 4 สถานีได้ทุกสถานี ส่วนใครที่จะมาเดินซื้อของหรือรับประทานอาหารก็พยายามให้มาก่อน 2 ทุ่ม เพราะร้านค้าใน Namba-Walk จะเริ่มทยอยปิดร้านกันแล้ว หากใครเป็นแฟนค่าย “Studio Ghibli“ ต้องไม่พลาด ร้าน “Donguri KyowaKoku” สาขานัมบะ ซึ่งเป็นสินค้าจากค่าย Studio Ghibli ของแท้ถูกลิขสิทธิ์ หรือหากใครเป็นสายรักการเล่นปาจิงโกะ, คีบตุ๊กตา เราขอแนะนำ ร้าน ROUND1 STADIUM Sennichimae (ร้านอยู่ข้างบน นัมบะ วอล์ค นะจ้ะ) รับรองว่าได้ตุ๊กตาติดไม้ติดมือกลับไทยแน่นอน
ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)
หนึ่งในสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่โด่งดังมากที่สุดของโอซาก้าเลยก็ว่าได้ค่ะ ถ้าอยากจะมาหาของกินยอดฮิตต้องมาแถวนี้ให้ได้ เพราะส่วนนี้นับว่าเป็นแหล่งรวมร้านอาหารมากมายที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง เรียกว่าคึกคักได้ตลอดทั้งวันทั้งคืนประหนึ่งเซเว่นบ้านเราเลย โดยตัวถนนแห่งนี้จะเลียบริมคลองโดทงโบริ และยังมีทั้งร้านค้า และแหล่งบันเทิงอีกมากมาย ในช่วงกลางคืนก็จะเปิดไฟประดับประดาสวยงามตามป้ายร้านค้าต่างๆ
ไฮไลด์ของย่านนี้คือ ป้ายนักวิ่งกูลิโกะ ที่ไม่ว่าใครไปโอซาก้าต้องไม่พลาดไปถ่ายรูปเช็คอิน และอีกหนึ่งไฮไลด์ที่ใครไปก็ต้องแวะไปทานกันคือ ร้านปูยักษ์ หรือ ร้านปูคานิโดราคุ (Kani Doraku) แม้ว่าราคาจะแพงไปสักหน่อย แต่ใครไปแนะนำว่าต้องแวะไปลองชิมสักครั้งนึงค่ะ และร้านทาโกยากิ KUKURU ร้านชื่อดังที่ต้องต่อคิวยาวมากกกก ถึงจะได้กิน และสำหรับนักชอปห้ามพลาดต้องที่นี้ “ร้านดองกิโฮเต้ สาขา โดทงโบริ” ซึ่งเป็นร้านขายของปลอดภาษีที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้ก็ว่าได้ หากได้หลงเข้าไปหล่ะก็ รับรองว่าออกมาเต็มสองมือแน่นอน
ย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi)
ชินไซบาชิ (Shinsaibashi) ตั้งอยู่ใกล้กับนัมบะและโดทงโบริ ย่านชินไซบาชิเป็นถนนสายช้อปปิ้งกึ่งอินดอร์ที่มีความยาวมากถึง 600 เมตร เต็มไปด้วยร้านค้าไม่ว่าจะเป็นร้านขายยา ร้านขายเครื่องสำอาง ร้านปลอดภาษี (Duty Free) ร้าน 100 เยน ร้านคาแรคเตอร์ต่างๆ ไปจนถึงร้านอาหารและคาเฟ่มากมายก็รวมตัวกันอยู่ที่นี่ เรียกได้ว่ามีทุกอย่างที่อยากได้จริงๆ ร้านค้าที่นิยมเช่น Unico,Daiso,ห้างไดมารุ (Daimaru),H&M, ZARA, ABC Mart, GU, Matsumoto Kiyoshi, 3COINS, Disney Store, Sanrio Gallery และร้านอื่นๆอีกมากมายให้นักชอปได้ชอปอย่างจุใจ หากมาที่นี้ที่เดียวได้ของครบแน่นอน แต่อาจจะต้องใจแข็งหน่อยนะคะ ไม่งั้นกระเป๋าตังค์อาจจะฉีกได้ เพราะมีร้านยั่วตังค์ในกระเป๋าเยอะมากจริงๆ
นิปปอนบาชิ (Nipponbashi) หรือ เดน เดน ทาวน์ (Den Den Town)
นิปปอนบาชิ (Nipponbashi) เดิมสมัยก่อนนั้นเป็นแหล่งขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเสียง อุปกรณ์ช่าง เครื่องยนต์ คอมพิวเตอร์ร้านของมือสอง และของเก่า แต่ในปัจจุบันนี้มีทั้งร้านเกม ร้านโมเดล ร้านมังงะ(การ์ตูน) และอนิเมะ ต่างๆให้เหล่าโอตะคุ ได้ชอปกันจุใจ ซึ่งหนึ่งในนั้นยังมีร้านยอดนิยม Super Kids land character เป็นร้านศูนย์รวมกันดั้ม กันพลาที่ใหญ่ที่สุดและร้าน Super Denden Land ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้ามีมีสินค้าครบวงจรเช่น ยา ขนม ของฝาก สินค้าแบรนด์เนม อีกทั้งในทุกๆปีเดือนมีนาคมยังมีการจัดงาน Nipponbashi Street Festa ที่มีนักคอสเพลย์กว่า 300 แบบ โดยแต่ละปีจะมีผู้คนมาเที่ยวงานเกินกว่า 130,000 คน นิปปอนบาชิเดนเดนทาวน์จึงถือเป็นแหล่งของเล่นหรือเมืองโอตะคุที่ใหญ่ที่สุดในคันไซและมีคนมาเที่ยวมากมายไม่แพ้ย่าอากิฮาบาร่าโตเกียวเลยทีเดียว อีกทั้งของสะสมประเภทของแรร์ ของหายากทั้งหลายนั้นบางครั้งมาหาได้ที่นี่ในราคาถูกกว่าโตเกียวด้วย นั่นเลยทำให้นักสะสมหลายๆ คนที่หาของบางอย่างไม่ได้ที่โตเกียว จะแวะมาที่โอซาก้านั่นเอง
เวลาทำการ
- เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเดินเล่นได้ตลอดเวลา แต่ร้านค้า และแหล่งบันเทิงต่างๆ จะมีช่วงเวลาเปิดปิดที่แตกต่างกันไป
การเดินทาง
จากสนามบินคันไซ
- รถบัส จากสนามบินให้เดินไปขึ้นรถบัสที่ Kansai-Airport Station เพื่อขึ้นรถที่ป้ายรอรถบัสหมายเลข 5 เลือกคันที่ไป Osaka Station City ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 52 นาที
- รถไฟ จากสนามบินให้เดินไปขึ้นรถไฟที่ Kansai-Airport Station เลือกรถไฟสาย Kansaikuko Line แล้วลงที่สถานี Umeda Station ตัวสถานีจะอยู่ใน Osaka Station City
จากตัวเมือง
- รถไฟ จาก Osaka Station City ให้ขึ้นรถไฟสาย Midosuji Line ที่สถานี Umeda Station (M16) เพื่อไปลงที่สถานี Namba (M20) ออกทาง exit 14 ระยะประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 17 นาที แล้วเดินไปอีกประมาณ 400 เมตรก็จะถึงย่านโดทงโบริ
- นั่ง Subway ไปลงที่ Nippombashi ออกทาง exit 2
- นั่งJR ลงสถานี JR Namba แล้วเดินตามป้าย Namba walk แล้วออกตรงทางออกถนน Mido-Suji
2. Sennichimae Doguyasuji Shopping Street : แหล่งช้อปปิ้งโอซาก้าของคนรักการทำอาหาร
ย่านการค้าเซ็นนิจิมาเอะโดกุยะซุจิ (Sennichimae Doguyasuji) นับเป็นหัวใจของเมืองอาหารการกินอย่างโอซาก้าเลยทีเดียว เพราะเป็นย่านการค้าที่เต็มไปด้วยร้านขายอุปกรณ์ทำอาหารและเครื่องครัวในราคาไม่แพง เหล่าบรรดาพ่อครัวมือโปรก็มักมาซื้ออุปกรณ์กันที่นี้
ถนนสายนี้ตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 ตลอดเส้นทางทั้งสองด้าน เต็มไปด้วยร้านค้าที่จำหน่ายอุปกรณ์ทำอาหาร ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ทำครัวทั่วไป วัตถุดิบ ภาชนะ เครื่องแบบ ผ้ากันเปื้อน หรือจะเป็นของจิปาถะอย่าง ร้านผ้าม่าน ร้านโคมไฟ ป้ายร้านอาหารและสินค้าอื่นๆ ที่น่าสนใจ รวมถึงอุปกรณ์การแต่งร้าน และโมเดลอาหาร ก็มีให้เลือกมากมาย สำหรับผู้ที่ติดใจบรรยากาศอยากลองซื้อมาตกแต่งบ้าน หรือเป็นของที่ระลึก นอกจากนี้ในบริเวณถนนช๊อปปิ้ง ยังมีร้านอาหารและขนมหลากหลายร้านให้คุณลิ้มลอง และเติมพลังหลังช๊อปปิ้งอีกด้วย หากใครอยากได้อุปกรณ์วัตถุดับจากญี่ปุ่น ภาชนะสวยๆ หรือของฝากที่ไม่ซ้ำใคร แนะนำให้มาที่นี้เลยค่า
เวลาทำการ
- ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน จะมีช่วงเวลาเปิดปิดที่แตกต่างกันไป
การเดินทาง
- เดิน 3 นาที จากสถานี Namba Sta. บนสาย Nankai Line, Osaka Metro Midosuji Line, Yotsubashi Line
- เดิน 5 นาที จากสถานี Nipponbashi Sta. บนสาย Osaka Metro Sennichimae Line, Kintetsu Line
3. Mio Tennoji : ชอปปิ้งพลาซ่าสุดครบครันแห่งเทนโนจิ
ย่านเท็นโนจิ เป็นจุดเชื่อมต่อการขนส่งด้วยระบบรางขนาดใหญ่จุดหนึ่งของเมืองโอซาก้า ทั้งจากสนามบินคันไซและจังหวัดข้างเคียงอย่าง นารา วาคายาม่า ด้วยความที่เรียกได้ว่าเดินทางได้อยางสะดวกสุดๆนี่เอง ทำให้เป็นเสมือนจุดศูนย์กลางของเมืองโอซาก้า เลยทีเดียว
ห้างสรรพสินค้ามิโอะ เท็นโนจิ ตั้งอยู่ในสถานี JR Tennoji นับได้ว่าเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้าเลย เป็นชอปปิ้งพลาซ่ารูปลักษณ์โมเดิร์นที่เชื่อมต่อกับสถานี JR Tennoji การันตีการเดินทางว่าสะดวกสบายสุดๆ ภายในนั้นสามารถแบ่งออกเป็น 2 อาคาร คือ อาคารหลัก และพลาซ่า ภายในอาคารหลักมีร้านค้า 12 ชั้น ร้านอาหาร 2 ชั้น ส่วนพลาซ่ามีร้นค้า 11 ชั้น บนชั้นที่ 4 จะเป็นร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์ โรงเรียน และคลินิก ด้วยร้านค้ากว่า 250 ร้าน รวบรวมสินค้าหลากหลายไว้เสิร์พขาช๊อปกันแบบจุใจ โดยเฉพาะเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น รวบรวมแบรนด์ดังเอาไว้มากมาย ทำให้ได้รับความนิยมจากขาชอปมากหน้าหลายตา นอกจากสิ่งของน่าซื้อแล้ว ร้านอาหาร ขนม เครื่องดื่มก็มีให้เลือกมากมาย ใครชอบฟีลแบบห้างไม่ควรพลาดที่นี่
เวลาทำการ
- อาคารหลัก ร้านค้า 11:00-21:00 ร้านอาหาร 11:00-22:00
- อาคารพลาซ่า ร้านค้า 10:00-21:00 ร้านอาหาร 8:00-22:00
- วันปิดทำการ: เปิดทุกวัน
การเดินทาง
จาก Osaka Station
- รถไฟจาก JR Osaka Station ลงที่สถานี JR Tennoji Station เดินอีก 4 นาที
- รถไฟจาก Umeda Station โดยสาร Midosuji Subway Line ลงที่สถานี Tennoji Station
จาก Namba Station
- รถไฟจาก JR Namba Station ลงที่สถานี JR Tennoji Staion
- โดยสาร Midosuji Subway Line ลงที่สถานี Tennoji Station
4. Shinsekai : ย่านการค้าท้องถิ่นวิวหอคอยสึเทนคาคุ
ชินเสะไกหรือที่แปลว่า “โลกใหม่” ที่มาจากคำว่า Shin หมายถึง “ใหม่” และ Sekai หมายถึง “โลก” เริ่มเปิดค้าขายมาตั้งแต่ปี 1912 ตั้งอยู่ทางทิศใต้ถัดลงมาจากย่าน Den Den Town มีจุดเด่นคือหอคอยสึเทนคาคุ (Tsutenkaku) เป็นสัญลักษณ์ที่ทุกคนต้องถ่ายรูปกลับมาและสัญลักษณ์สำคัญอีกอย่างหนึ่งของที่นี่คือโคมกระดาษรูปปลาปักเป้าขนาดมหึมา
บริเวณนี้ยังมีถนนแคบๆที่เรียกกันว่า จันจัน โยโกะโช(Jan Jan Yokocho)ที่เป็นแหล่งรวมร้านกินดื่มสำหรับคนญี่ปุ่น เปิดไฟร้านเรียกแขกคึกคัก มีอาหารและขนม และกับแกล้มให้ลองชิมกันมากมาย โดยอาหารขึ้นชื่อของย่านนี้ที่ห้ามพลาดก็คือ คุชิคาสึ(kushikatsu) ของทอดเสียบไม้ และแถวๆนี้ยังมีร้านขายของที่ระลีกให้เลือกช็อปปิ้งกันอีกหลายร้าน หลายคนที่ไปที่นี่จะพบเห็นหุ่นคล้ายลิงนั่งยิ้ม ตามมุมต่างๆที่เจอ นั่นก็คือบิลลิเคน(Billikan) หรือเทพแห่งโชคลาภนั่นเองที่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของย่านนี้อีกด้วย
ชินเสะไกถือเป็นสถานที่ช้อปปิ้งที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของโอซาก้า มีบรรยากาศสายๆ เหมาะแก่การเดินเล่นและเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่รวบรวมสินค้าจากท้องถิ่นราคาถูกไว้มากมาย ไม่เน้นสินค้าแบรนด์เนมเหมือนย่านอื่นๆ
เวลาทำการ
- ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน (ร้านอาหารส่วนใหญ่เปิด 11:00 น. บางร้านเปิดตลอด 24 ชั่วโมง)
การเดินทาง
- เดิน 3 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดิน Ebisucho สาย Sakaisuji Line (Exit 3)
- เดิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดิน Dobutsuen-mae สาย Midosuji Line (Exit 5)
- เดิน 10 นาทีจากสถานีรถไฟ Shin-Imamiya สาย JR หรือ Nankai (East Exit)
5. Mitsui Outlet Park Osaka Tsurumi : แหล่งช้อปปิ้งโอซาก้าสไตล์สตรีทและแคชชวล
Mitsui Outlet Park Osaka Tsurumi เปิดให้บริการในโอซาก้าในปี 1995 เป็นเอ้าท์เล็ตในร่ม เดินทางสะดวก ชั้น 3, 4 และ 5 มีขายสินค้าในประเทศและของแบรนด์เนมมากมาย ที่เน้นไปทางสไตล์สตรีทและแคชชวลเกือบ 60 ร้าน ไปจนถึงร้านค้าแฟชั่นหลากหลาย
แม้ว่าเอาท์เล็ตนี้จะมีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาเอาท์เล็ตทั้งหมด แต่ก็ขอแนะนำเพราะเดินทางสะดวกมากใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟประมาณ 30 นาทีจากสถานีโอซาก้า ในช่วงสุดสัปดาห์และวันหยุดจะมีการแสดงดนตรีสดที่ชั้น 3 ที่จุผู้ชมได้ถึง 300 คน นอกจากนี้บรรยากาศก็ยังดี ถ่ายรูปเซลฟี่ได้สนุกทีเดียว รวมทั้งมีบริการล็อกเกอร์ฝากของให้นักท่องเที่ยวที่แบกสัมภาระมามากมายได้ฝากของไว้จะได้เดินช็อปกันอย่างสบายๆ ไม่ต้องแบกให้หนัก เพราะหนักแค่กระเป๋าตังค์ก็พอ ร้านค้าต่างๆ ก็น่าสนใจและน่าเข้าไปจับจ่าย เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นแบรนด์ที่ชาวไทยคุ้นเคยกันดี เช่น BEAMS, SEIKO, Wacoal, NIKE, adidas, asics, Reebok, Timberland งานนี้เสียเงินไม่ยากแน่นอน
เอาท์เล็ตนี้อาจจะมีปริมาณนักท่องเที่ยวมากสักหน่อย เพราะทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ Kadoma-Minami นั่นเอง และถ้าเดินเหนื่อยก็ยังสามารถพักร่างกายที่ร้านคาเฟ่ที่อยู่รอบๆ พร้อมทั้งซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าอีกมากมาย สำหรับใครที่ไม่ได้อยากได้แค่แบรนด์เนม ก็ยังจะได้เสียทรัพย์ให้กับร้านอื่นๆ เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย มาเดินช็อปกันได้ทั้งครอบครัว
เวลาทำการ
- 11.00-20.00 น.
การเดินทาง
- นั่งรถไฟสาย Nagahoritsurumiryokuchi Line มาลงสถานี Kadoma-Minami แล้วเดินอีก 10 นาที
6.Rinku Premium Outlets : แหล่งชอปปิ้งโอซาก้าริมอ่าว ใกล้สนามบิน
Rinku Premium Outlets เป็นเอ้าท์เล็ตเอาท์ดอร์ขนาดใหญ่ที่มีร้านค้ากว่า 200 แห่ง ตั้งอยู่ในเมืองรินกุ เป็นเอาท์เล็ตที่มีทัศนียภาพดีมากๆ ก็คงไม่ผิด เพราะที่นี่ตั้งอยู่ติดกันกับอ่าวโอซาก้าที่ขยับไปอีกนิดก็จะเป็นสนามบิน Kansai International Airport แล้ว ไปกลับสะดวกใช้เวลาเพียง 20 นาทีโดยรถรับส่งจากสนามบิน เหมาะสุดๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะแวะช็อปปิ้งก่อนบินกลับประเทศ
บรรยากาศภายในเอาท์เล็ตก็สะอาดตา ตกแต่งสวยงาม รู้สึกเหมือนกำลังช้อปปิ้งอยู่ในยุโรป สามารถหาซื้อแบรนด์แฟชั่นในประเทศและนำเข้าที่ดังๆ ได้ เช่น adidas, ANNA SUI, Billabong, Camper, COACH, Columbia, Citizen, clarks, crocs, DIESEL, Dolce&Gabbana, ecco
furla, GAP, GUESS, Jill by Jillstuart, Lacoste, Levi’s, Michael Kors, New Balance, NIKE, Peach John, Puma, Quicksilver แต่ยังมีร้านค้าหลากหลายมากมายตั้งแต่ของใช้ในครัวเรือน รองเท้า กระเป๋า ไปจนถึงร้านอาหาร คุณสามารถซื้อสินค้าได้ที่นี่ตลอดทั้งวันหรือแวะชมได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงก่อน
ได้เดินช็อปปิ้งท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามแบบนี้บอกเลยว่ายิ่งแฮปปี้ เป็นบรรยากาศที่เหมาะแก่การเสียเงินสุดๆ สำหรับคุณผู้ชายที่ไม่สามารถเดินตามคุณผู้หญิงตลอดทั้งวันได้ไหว เราขอแนะนำให้มานั่งหย่อนกายตามจุดต่างๆ ที่เอาท์เล็ตจัดไว้บริการก็สบายสุดๆ
เวลาทำการ
- 10.00-20.00 น.
การเดินทาง
- รถไฟ JR สาย Haruka Line มาลงสถานี Rinku-Town แล้วเดินอีก 9 นาที
7. อาเมะมุระ (Ame-Mura) หรือ Amerikamura : ศูนย์รวมสินค้าแฟชั่นและวัฒนธรรมร่วมสมัย
อาเมะมุระ ศูนย์รวมสินค้าแฟชันและวัฒนธรรมร่วมสมัยของย่านมินามิ (Minami) ตั้งอยู่ในเขตถนน Nagahori-dori ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของสถานีชินไซบาชิ และมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานตั้งแต่ยุค 70s โดยเริ่มจากการเปิดร้านขายสินค้าครั้งแรกเพื่อจำหน่ายเสื้อผ้าวินเทจ, ยีนส์, ของมือสองและสินค้าอื่นๆ ที่มาจากฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกาจนเป็นที่มาของย่านนี้ในชื่อว่าอเมริกามุระ (Amerikamura) หรือ American Village ที่มีความหมายว่า “หมู่บ้านอเมริกัน” และเรียกกันสั้นๆ ว่า “อาเมะมุระ”
เนื่องจากสินค้าต่างๆ ค่อนข้างมีราคาถูกและหลากหลายจนทำให้ย่านนี้กลายเป็นย่านการค้าที่ได้รับความนิยมในหมู่นักช้อปที่มองหาสินค้าแฟชันอินเทรนด์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันที่มีร้านค้าเพิ่มขึ้นมากว่า 3,000 ร้าน รวมทั้งร้านกาแฟ, บาร์และร้านอาหารอีกมากมาย
ด้วยเอกลักษณ์และมนต์เสน่ห์ของอาเมะมุระทำให้สื่อโทรทัศน์เลือกมาแนะนำจนกลายเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศว่าอเมริกามุระคือถิ่นของเทรนด์แฟชันรุ่นใหม่ล่าสุด จนทำให้ในปัจจุบันอาเมะมุระกลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของการรวมตัวของหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์และแฟชั่นที่ไม่ซ้ำใคร นอกจากแฟชันแล้ววิถีชีวิตกลางคืนที่อาเมะมุระก็เป็นย่านบันเทิงที่มีชื่อเสียงมากด้วยเช่นกัน
เวลาทำการ
- ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน จะมีช่วงเวลาเปิดปิดที่แตกต่างกันไป
การเดินทาง
- เดิน 3 นาทีจากรถไฟใต้ดินสาย Midosuji หรือ Nagahori Tsurumi-ryokuchi ลงที่สถานี Shishinsaibashi ทางออก 7
- เดิน 3 นาทีจากรถไฟใต้ดินสาย Yotsubashi ลงที่สถานี Yotsubashi
- เดิน 7 นาทีจากรถไฟใต้ดินสาย Midosuji หรือ Sennichimae ลงที่สถานี Namba
- เดิน 7 นาทีจากรถไฟฟ้าสาย Kintetsu Namba หรือ Hanshin Namba ลงที่สถานี Osaka namba
- เดิน 8 นาทีจากการรถไฟญี่ปุ่นตะวันตกสายหลัก Kansai ลงที่สถานี JR Namba
หากอยากเดินทางมาช้อปปิ้งง่ายๆ ไม่ต้องแบกของขึ้นรถไฟฟ้าไปไกลๆ เราแนะนำให้ท่านหาโรงแรมโอซาก้าที่ใกล้ๆ แหล่งช้อปปิ้ง จะได้ช้อปได้เยอะจุใจไม่ต้องแบกของหนักๆวนรอบเมือง ส่วนเดือนที่เหมาะกับการมาเยือนแหล่งช้อปปิ้งโอซาก้าหรือมาท่องเที่ยวที่โอซาก้านั้น ลองดูได้จากบทความเที่ยวโอซาก้าเดือนไหนดีได้เลยค่ะ