พาทัวร์ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) ศาลเจ้าจิ้งจอก ญี่ปุ่น ที่ใครๆ ก็ไม่พลาดแวะเช็คอิน

พาทัวร์ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) ศาลเจ้าจิ้งจอก ญี่ปุ่น ที่ใครๆ ก็ไม่พลาดแวะเช็คอิน

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) ได้กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองเกียวโต (Kyoto) จากภาพเสาโทริอิสีชาดนับพันต้นที่เรียงรายเป็นทางยาว ด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและสวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวต่างพากันแวะมาเช็คอินกันอย่างเนืองแน่น

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ประวัติความเป็นมา

ศาลเจ้าเทพอินาริ (Fushimi Inari Shrine) หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่า ศาลเจ้าแดงหรือศาลเจ้าจิ้งจอก เป็นศาลเจ้าชินโต(Shinto) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเกียวโต บริเวณเขาอินาริ ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงจาก เสาโทริอิ (Torii gate) สีแดงชาดจำนวนหลายหมื่นต้น ซึ่งตั้งเรียงกันเป็นอุโมงค์เส้นทางเดินทอดยาว ตรงไปยังป่าในหุบเขาอินาริ (Mount Inari) อันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีความสูง 233 เมตร และเป็นอาณาบริเวณส่วนหนึ่งของศาลเจ้า ผู้คนเชื่อกันว่า ภูเขาอินาริ เป็นภูเขาศักดิ์สิทธ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่จะเห็นรูปปั้นจิ้งจอกอยู่จำนวนมากภายในศาลเจ้านั่นเอง

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ Fushimi Inari Shrine

จุดทางเข้าเริ่มต้นของประตูเสาโทริอิ อยู่ที่ด้านหลังของพื้นที่ศาลเจ้าหลัก ซึ่งตั้งครอบทางเดินขึ้นสู่ยอดเขา โดยเริ่มต้นที่แถวประตูสองแถวตั้งขนานกันเรียกว่า “เซนบอน โทริอิ (Senbon Torii)” หรือ “ประตูโทริอิหนึ่งพันเสา (thousands of torii gates)” เสาโทริอิที่ตั้งอยู่บนเส้นทางนี้ได้รับการบริจาคโดยบุคคลและองค์กรต่างๆ โดยจะมีการสลักชื่อผู้บริจาคและวันที่เอาไว้ที่ด้านหลังของเสาแต่ละต้น

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ Fushimi Inari Shrine

การเดินทางขึ้นไปบนยอดเขาและกลับลงมาจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินไกลเท่าที่ต้องการก่อนที่จะกลับลงมา ตามเส้นทางเดิน คุณจะพบกับศาลเจ้าขนาดเล็ก และแถวเสาโทริอิที่มีขนาดย่อมลงมา นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารจำนวนหนึ่งตั้งอยู่ระหว่างเส้นทาง ซึ่งจะให้บริการเมนูอาหารที่ตั้งชื่อตามบรรยากาศของท้องถิ่น อาทิเช่น อินาริซูชิ (Inari Sushi) และคิทสึเนะอุด้ง (Kitsune Udon หรืออุด้งจิ้งจอก) ซึ่งทั้งสองเมนูจะมีอาบุระอาเกะ (aburaage) หรือเต้าหู้ทอดเป็นส่วนประกอบ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นอาหารโปรดของสุนัขจิ้งจอก

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ Fushimi Inari Shrine

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ Fushimi Inari Shrine

หลังจากเดินทางไปได้สักพัก จำนวนเสาโทริอิจะค่อยๆ ลดลง และตั้งห่างกันมากขึ้น จากนั้นจะถึงทางแยกโยสึสึจิ (Yotsutsuji intersection) ซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางเส้นทางขึ้นเขา ณ จุดนี้คุณสามารถพักผ่อนเพื่อชมทัศนียภาพที่งดงามของเกียวโตได้ เส้นทางเดินต่อจากจุดนี้จะแยกเป็นเส้นทางวนขึ้นสู่ยอดเขา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะหยุดเดินตรงจุดนี้ กลับลงข้างล่าง เนื่องจากเส้นทางต่อจากนี้จะไม่มีอะไรมากนัก และจำนวนเสาโทริอิก็จะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ Fushimi Inari Shrine

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ Fushimi Inari Shrine

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ Fushimi Inari Shrine

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ Fushimi Inari Shrine

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ขอพรยังไง

เนื่องจาก ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ โด่งดังเรื่องเทพเจ้าจิ้งจอกจึงมีการขอพรที่ค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์ โดยแผ่นไม้ขอพรจะเป็นรูปสุนัขจิ้งจอก นอกจากจะเขียนสิ่งที่ต้องการอฐิษฐานแล้วยังครีเอทหน้ากันได้เองเลย หรือจะใช้ป้ายที่เป็นรูปทรงเสาโทริอิสีแดงก็ดูขลังไปอีกแบบ หรือจะเสี่องดวงที่ Okusha Hohaisho ถ้ายกหินยอดโคมไฟขึ้นแล้วรู้สึกเบาจะเป็นไปตามประสงค์

การเดินทาง เวลาเปิดปิด

เวลาเปิดปิด :
เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

การเดินทาง

  • รถประจำทาง:
    จากสถานี Kyoto นั่งสาย 5 หรือ 105
  • รถไฟ :
    ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Shrine) ตั้งอยู่หน้าสถานี JR อินาริ (JR Inari Station) ซึ่งเป็นสถานีที่สองจากสถานีเกียวโต (Kyoto Station) ในเส้นทางรถไฟสาย JR นารา (JR Nara Line) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาที จากสถานีเกียวโต ไม่มีรถด่วน (rapid train) ให้บริการ หรือคุณสามารถเดินจากสถานีฟุชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Station) ตามเส้นทางรถไฟ บนสายรถไฟสายหลักเคฮัน (Keihan Main Line)

หลังจากเที่ยวศาลเจ้าฟูชิมิอินาริแล้ว หากยังไม่มีแผนว่าจะไปไหนต่อลองแวะไปวัดไดโกจิ ใบไม้เปลี่ยนสีที่นี้สวยมากไม่ผิดหวังชัวร์

บอกให้เพื่อนของคุณทราบ