ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) พลังแห่งธรรมชาติและความศักดิ์สิทธิ์ใจกลางเมือง

ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) พลังแห่งธรรมชาติและความศักดิ์สิทธิ์ใจกลางเมือง

ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) เป็นศาลเจ้าที่คนญี่ปุ่นนิยมมาขอพรมากที่สุดในช่วงวันปีใหม่ ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่ดวงวิญญาณของสมเด็จพระจักพรรดิเมจิ และสมเด็จพระจักพรรดินีโชเก็ง ตั้งอยู่ในเขตชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ใกล้กับสถานีฮาราจูกุ (Harajuku Station) และอยู่ติดกับสวนโยโยกิ (Yoyogi Park) ความพิเศษของศาลเจ้าเมจิ คือพื้นที่โดยรอบที่มีขนาดใหญ่ถึง 700,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยพรรณไม้กว่า 365 ชนิด และมีจำนวนต้นไม้ทั้งหมดกว่าหนึ่งแสนต้น ให้บรรยากาศร่มรื่นและสงบแม้ว่าจะตั้งอยู่ในย่านธุรกิจของกรุงโตเกีย จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ป่าในเมือง จากความศักดิ์สิทธิ์และบรรยากาศทั้งหลายที่เต็มไปกลิ่นอายมนตร์ขลังจึงทำให้ ศาลเจ้าเมจิ มีชื่อเสียงในการจัดงานแต่งงานแบบชินโตดั้งเดิมมากๆ เรียกได้ว่าถ้ามาแล้วโชคดีอาจจะได้เห็นพิธีการหรือบ่าวสาวที่แต่งชุดแต่งงานสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆก็เป็นได้

ศาลเจ้าเมจิ Meiji Shrine

เนื่องจากศาลเจ้าเมจิมีบริเวณกว้างขวาง ทำให้มีทางเข้าจากหลายทาง หากมาจากสถานีฮาราจูกุ (Harajuku Station) ซึ่งเป็นทางเข้าหลัก จะเริ่มจากสะพานหิน Jingu Bashi ที่อยู่ตรงแยกใกล้ๆ กับสถานีรถไฟ JR Harajuku ให้เดินข้ามสะพานนี้ไปอีกฝั่ง จะเจอ “เสาโทริอิ (Torii)” ขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าบริเวณทางเข้า เมื่อเดินผ่านเสาเข้ามาจะเป็นป่าใจกลางเมือง มีต้นไม้อยู่มากถึง 1 แสนต้น หรือที่เรียกกันว่า Meiji Jingu’s forest เมื่อเดินเข้ามาถึงด้านในจะรู้สึกสงบ แตกต่างจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่อย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว และต้องใช้เวลาเดินเข้าไปประมาณ 10 นาที จึงจะถึงอาคารหลักของศาลเจ้า (Main Shrine Building)

ศาลเจ้าเมจิ Meiji Shrine

ศาลเจ้าเมจิ Meiji Shrine

*เสาโทริอิ (Torii) คือซุ้มประตูแบบญี่ปุ่น มีลักษณะเหมือนคอนนก ปกติเสาโทริอิจะตั้งอยู่ปากทางเข้าศาลเจ้าหรือปากทางเข้าวัด มีไว้เพื่อเตือนให้ผู้คนที่กำลังเดินเข้าศาลเจ้าหรือเดินเข้าวัดได้พึงระลึกว่า สถานที่หลังเสาโทริอินี้เป็นอาณาเขตของเทพเจ้าหรือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อได้เดินผ่านเสาต้นนี้ พึงสำรวมกาย วาจาและใจให้ดี ดังนั้นเวลาที่คนญี่ปุ่นเดินผ่านโทริอิ จะต้องโค้งคำนับ 1 ครั้งแล้วก็เดินเข้าไป ตอนออกก็ต้องโค้งคำนับ 1 ครั้งเช่นกัน

ศาลเจ้าเมจิ Meiji Shrine

ระหว่างทางนอกจากธรรมชาติที่รายล้อมแล้ว บางช่วงยังมีถังสาเกวางเรียงรายและมีลวดลายสวยงาม ให้แวะแชะภาพกันด้วย และก่อนถึงศาลเจ้าด้านใน จะมีสวนขนาดใหญ่ให้เที่ยวชม สวนนี้มีชื่อว่า Meiji Shrine Inner Garden มีค่าเข้าชม 500 เยน ภายในสวนมีธรรมชาติและสัตว์ต่างๆ ให้ชม รวมถึงสวนดอกไม้ที่จะสลับกันบานในแต่ละฤดู ไฮไลท์ของสวนนี้คือดอกไอริสซึ่งจะบานในช่วงต้นเดือนมิถุนายนค่ะ

ศาลเจ้าเมจิ Meiji Shrine

ศาลเจ้าเมจิ Meiji Shrine

ศาลเจ้าเมจิ Meiji Shrine

พอเจอสวน Meiji Shrine Inner Garden แสดงว่าใกล้ถึงตัวศาลเจ้าเมจิแล้ว เดินมาเรื่อยๆ จนเจอเสาโทริอิ ศาลเจ้าเมจิ กับรั้วกั้น เป็นอันว่ามาถึงจุดหมายกันแล้ว ก่อนเดินเข้ามาด้านใน จะเจอกับซุ้ม Temizuya อยู่ท้างซ้าย ให้แวะล้างมือ ล้างปากที่นี่ก่อนเข้าศาลเจ้า (เสต็ปการล้าง คือ ล้างมือซ้าย → ล้างมือขวา → ล้างปาก → ล้างมือซ้าย → ล้างกระบวย)

ศาลเจ้าเมจิ Meiji Shrine

ศาลเจ้าเมจิ Meiji Shrine

พอเดินรอดซุ้มเข้าไปก็จะเจอกับลานกว้างหน้าอาคารหลักของศาลเจ้า เดินตรงไปที่อาคารหลักของศาลเจ้าเมจิเลยค่า เพื่อไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้ากัน

ศาลเจ้าเมจิ Meiji Shrine

ศาลเจ้าเมจิ Meiji Shrine

ศาลเจ้าเมจิ Meiji Shrine

ซุ้มสำหรับแขวน แผ่นไม้เอมะ (Ema) ขอพร

ศาลเจ้าเมจิ Meiji Shrine

ศาลเจ้าเมจิ Meiji Shrine

ศาลเจ้าเมจิ ขอพร ยังไงให้ปัง

ให้เดินเข้ามาด้านใน ตรงอาคารหลักของศาลเจ้าเมจิ เพื่อไหว้ขอพรเทพเจ้า

ขั้นตอนในการไหว้ขอพร

  1. โยนเหรียญ 5 เยน หรือ เหรียญโกะเอน (Go-en) ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่า เป็นเหรียญแห่งความโชคดี
  2. โค้ง 2 ครั้ง
  3. ปรบมือ 2 ครั้ง
  4. ขอพร ตามที่ต้องการ
  5. โค้ง 1 ครั้ง เป็นอันเสร็จพิธี

นอกจากการขอพรบริเวณศาลเจ้าหลักแล้ว ที่ด้านข้างจะมีซุ้มสำหรับแขวน แผ่นไม้เอมะ (Ema) ขอพรด้วย โดยให้เราเขียนคำอธิษฐานหรือสิ่งที่เราตั้งใจว่าจะทำลงไปบนแผ่นไม้ พร้อมนำไปแขวนไว้ตรงที่ที่ทางศาลเจ้าจัดเตรียมไว้รอบต้นไม้ รวมถึงใกล้ๆ ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ก็มีกระดาษขอพร ให้ใส่ซองส่งตรงไปถึงเทพเจ้าอีกด้วย

ศาลเจ้าเมจิ เครื่องรางเด็ด ห้ามพลาด

เครื่องรางญี่ปุ่น นั้นมีชื่อเสียงอย่างมาก เรียกได้ว่าใครเป็นสายมูต้องไม่พลาดเด็ดขาด จะต้องซื้อติดไม้ติดมือ พกติดตัวติดกระเป๋า หรือจะซื้อเป็นของฝากก็ได้ สำหรับที่ศาลเจ้าเมจินั้น ก็ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องรางไม่แพ้ที่อื่น โดยเฉพาะเครื่องรางความรัก เรียกได้ว่าใครโสดก็ได้แฟน ใครมีแฟนก็ได้แต่งงาน ใครแต่งงานแล้วชีวิตคู่ก็จะดียิ่งๆขึ้นไป และถ้าถามว่า ศาลเจ้าแห่งนี้ศักดิ์สิทธิ์เรื่องความรักขนาดไหน ทางเราก็ขอบอกเลยว่า ศักดิ์สิทธิ์ขนาดที่มีคู่บ่าวสาวมากมายมาทำพิธีแต่งงานกันที่นี่เยอะแยะเลยหล่ะ

สำหรับใครที่มาเที่ยวโตเกียวแล้ว ศาลเจ้าเมจิ เป็นอีกที่เที่ยวที่เรียกได้ว่าเป็น แลนด์มาร์ค ที่พลาดไม่ได้เลยค่ะ แอดแนะนำว่าให้ลองแวะมาเดินเที่ยวท่ามกลางป่าใหญ่ร่มรื่นใจกลางเมือง และขอพรเทพเจ้ากันดูสักครั้ง

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ

  • บริเวณศาลเจ้า ไม่มีกำหนดเวลาเปิดปิดที่แน่นอน แต่ยึดหลักตามเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและตก
  • บริเวณสวนภายในศาลเจ้า เปิดทำการตั้งแต่ 09.00 – 16.30 น.
  • ทั้งสองสถานที่เปิดทำการทุกวัน ไม่มีวันหยุด

การซื้อบัตรเข้าชม

  • บริเวณศาลเจ้า ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
  • บริเวณสวนภายในศาลเจ้า มีค่าเข้าชม 500 เยน

การเดินทาง

  • รถไฟ
    – รถไฟ JR : นั่งรถไฟสาย Yamanote Line ลงที่สถานี JR Harajuku และเดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที
    – รถไฟ Subway : ลงที่สถานี Meiji-jingu mae และเดินต่อไปอีกประมาณ 7 นาที
  • รถแท็กซี่
    – รถแท็กซี่ในกรุงโตเกียวนั้นมีค่ามิเตอร์เริ่มต้นที่ 410-800 เยน ต่อระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก

 

บอกให้เพื่อนของคุณทราบ