เยือนศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine) การเดินทางสู่หัวใจแห่งวัฒนธรรมญี่ปุ่น

วันนี้แบกเมียเที่ยวจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเมืองเกียวโต ที่สายมูจะต้องชอบ นั่นก็คือ ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine) ซึ่งเป็นหนึ่งในศาลเจ้าชินโตที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักอย่างมากในญี่ปุ่น เชื่อกันว่าจะนำโชคลาภและความโชคดีมาสู่ผู้ที่มากราบไหว้ขอพร หากเพื่อนๆ มีโอกาสไปเยือนเกียวโต ต้องห้ามพลาดไปเยี่ยมชมศาลเจ้าที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และสวยงามแห่งนี้

เยือนศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine) การเดินทางสู่หัวใจแห่งวัฒนธรรมญี่ปุ่น

ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine) หรือ ศาลเจ้ากิออน ตั้งอยู่ในย่านกิออน กลางเมืองเกียวโต ล้อมรอบด้วยสวนสวยและสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการสัมผัสกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานของญี่ปุ่นในขณะที่เพลิดเพลินกับบรรยากาศอันเงียบสงบของศาลเจ้า

ประวัติ ศาลเจ้ายาซากะ

ศาลเจ้ายาซากะ

ศาลเจ้า Yasaka เป็นศาลเจ้าชินโตที่โดดเด่นตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีเรื่องราวยาวนานกว่า 1,350 ปี ตามบันทึกของศาลเจ้า เดิมทีสร้างขึ้นในปี 656 ในสมัยอะสุกะ ซึ่งเป็นปีที่สองในรัชสมัยของจักรพรรดิไซเม ศาลเจ้าถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการทางจิตวิญญาณของผู้คนในภูมิภาคนี้

ในช่วงต้นยุคเฮอัน ศาลเจ้าแห่งนี้กลายเป็นเป้าหมายของการอุปถัมภ์และการสนับสนุนของจักรวรรดิ สถานะของศาลเจ้าเติบโตขึ้นตามกาลเวลา และได้กลายเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมที่สำคัญในเกียวโต ในช่วงสมัยเอโดะ ศาลเจ้าได้กลายเป็นศูนย์กลางของ เทศกาลกิอง ซึ่งเป็นหนึ่งในเทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น

ปัจจุบัน ศาลเจ้าแห่งนี้ยังคงเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมในเกียวโต สถาปัตยกรรมที่สวยงามและบรรยากาศอันเงียบสงบดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

Yasaka Shrine รีวิว

ศาลเจ้า Yasaka ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวระหว่างย่านกิออน (Gion) ซึ่งเป็นย่านเกอิชา และย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama) ของวัดน้ำใสคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera Temple) มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นซึ่งมีการผสมผสานระหว่างอิทธิพลของญี่ปุ่นและจีนแบบดั้งเดิม

ศาลเจ้ายาซากะ

จากสถานีรถไฟใต้ดิน Gion-Shijo Station เราจะสามารถมองเห็นศาลเจ้าอยู่ที่สุดทางถนนได้ ใช้เวลาเดินประมาณ 8- 10 นาที ก็จะพบกับประตูทางเข้าของศาลเจ้าหรือที่เรียกว่า ประตูโรมง เป็นโครงสร้างไม้ 2 ชั้นที่มีการแกะสลักอย่างประณีตและทาสีด้วยสีสันสดใสโดดเด่นเห็นได้แต่ไกล ประตูขนาบข้างด้วยโคมไฟไม้ขนาดใหญ่ 2 ดวง ซึ่งจะจุดขึ้นในช่วงเทศกาลและงานต่างๆ

ศาลเจ้ายาซากะ

เมื่อเราเดินเข้าไปภายในศาลเจ้าก็จะเจอกับศาลเจ้าขนาดเล็กจำนวนมากซึ่งกระจายอยู่ทั่วบริเวณ บริเวณตรงกลางศาลเจ้า Yasaka จะมีศาลาใหญ่ 2 แห่งด้วยกัน คือ ฮอนเดน (Honden) และ ไมโดโนะ (Maidono)

1. ฮอนเดน (Honden) คือศาลาหลักของศาลเจ้า มีโครงสร้างไม้สีสันสดใสพร้อมหลังคาแหลมสูงชันที่ประดับด้วยนกฟีนิกซ์สีทองขนาดใหญ่ ตัวอาคารมีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ โดยส่วนบนของหลังคาจะยื่นออกมาเหนือส่วนล่าง ทำให้มีลักษณะโค้งขึ้นที่โดดเด่น มีกระดิ่งลูกใหญ่แขวนอยู่ด้านหน้าศาลา 3 อัน สำหรับให้ผู้คนมาสั่นกระดิ่งเพื่อขอพร

ศาลเจ้ายาซากะ

2. ไมโดโนะ (Maidono) เป็นเวทีซึ่งมีการประดับโคมไฟนับร้อย ซึ่งตัวหนังสือภาษาญี่ปุ่นที่เขียนอยู่คือชื่อของธุรกิจ ร้านค้าและผู้ที่บริจาคเงินให้กับศาลเจ้า

ศาลเจ้ายาซากะ

นอกจากนี้บริเวณติดกันก็ยังมี สวนสาธารณะมารุยามะ (Maruyama Park) ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองเกียวโต และเป็นจุดชมซากุระยอดนิยมของเกียวโตในช่วงฤดูใบไม้ผลิตอนต้นเดือนเมษายนอีกด้วย

เทศกาลกิอง (Gion Festival)

เทศกาลกิอง (Gion Festival) งานเทศกาลยิ่งใหญ่ที่มีเวทีเป็นเมืองเกียวโตทั้งเมือง มีประวัติยาวนานกว่า 1,000 ปี เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของฤดูร้อนในเกียวโต ในเดือนกรกฎาคมของทุกปี ที่เกียวโตจะมีการจัดเทศกาลกิอง ซึ่งนับได้ว่าเป็นหนึ่งใน 3 เทศกาลใหญ่ของญี่ปุ่น ควบคู่ไปกับเทศกาลเท็นจิน ของโอซาก้า และเทศกาลคันดะ ของโตเกียว เป็นการเฉลิมฉลองโดยการปิดถนน มีรถลากยามาโฮโกะขนาดใหญ่ถูกแห่ไปในใจกลางเมือง และมีร้านค้าขายอาหารมากมายมาวางขายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เทศกาลกิองนั้นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกด้านวัฒนธรรมที่ไม่มีรูปร่างโดยยูเนสโกด้วย

Yasaka Shrine ขอพรเรื่องอะไร

ศาลเจ้า Yasaka เป็นศาลเจ้าที่สามารถขอพรได้ในทุกด้าน เช่น ให้การค้าเจริญรุ่งเรือง ปัดเป่าเคราะห์ร้าย ให้สุขภาพแข็งแรง และให้ประสบความสำเร็จในด้านการเรียน โดยเฉพาะเรื่องความรัก เพราะศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงในฐานะสถานที่สถิตของเทพเจ้าแห่งความรัก และเป็นแหล่งเสริมดวงชะตาด้านความรัก ผู้คนจำนวนมากจึงมักมาเสี่ยงเซียมซีทำนายรัก หรือที่เรียกว่า “โคอิมิคุจิ (Koi Mikuji)” นอกจากนี้ยังสามารถเขียนคำอธิษฐานลงไปบนแผ่นไม้รูปหัวใจสุดน่ารักที่เรียกว่า “เอะมะ (Ema)” แล้วนำไปแขวนไว้ในบริเวณศาลเจ้าได้อีกด้วย

เครื่องรางศาลเจ้ายาซากะ

เครื่องรางหรือ “โอมาโมริ” มีมากมายให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อ ได้แก่

  1. เครื่องรางความรักและความสัมพันธ์: เครื่องรางนี้เชื่อว่าจะช่วยให้ผู้คนได้พบกับความรัก เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่มีอยู่หรือการแต่งงาน และนำความสุขและโชคในความรักมาให้
  2. เครื่องรางสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี: เชื่อว่าเครื่องรางนี้ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและป้องกันการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ
  3. เครื่องรางความสำเร็จในการสอบและการเรียน: เชื่อว่าหากนักเรียนพกเครื่องรางนี้ จะได้รับความสำเร็จในการสอบและการเรียน
  4. เครื่องรางความสำเร็จทางธุรกิจ: เครื่องรางนี้เชื่อว่าส่งเสริมความสำเร็จในการทำธุรกิจและนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่เจ้าของ
  5. เครื่องรางความปลอดภัยในการขับขี่: เครื่องรางนี้มีไว้สำหรับผู้ที่ต้องการอธิษฐานให้เดินทางปลอดภัยขณะเดินทางไปที่ต่างๆ
  6. เครื่องรางการคลอดบุตรอย่างปลอดภัย: เครื่องรางนี้มอบให้กับสตรีมีครรภ์เพื่อการคลอดบุตรอย่างปลอดภัยและสุขภาพของทารก

ศาลเจ้ายาซากะ ค่าเข้า และเวลาเปิดปิด

  • ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี
  • เวลาเปิด-ปิด: เปิด 24 ชม.
  • วันปิดทำการ: เปิดทุกวัน

ศาลเจ้ายาซากะ พิกัด

  • ที่อยู่: 625 Gionmachi Kitagawa, Higashiyama Ward, Kyoto, 605-0073 ญี่ปุ่น

วิธีเดินทางไป ศาลเจ้ายาซากะ

รถไฟใต้ดิน:

  • ลงสถานี Gion-Shijo (รถไฟสาย Keihan Main Line) แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
  • ลงสถานี Kyoto-Kawaramachi (รถไฟสาย Hunkyu Kyoto Line) แล้วเดินต่อประมาณ 8 นาที

รถบัส:

  • Kyoto City Bus สาย 12, 46, 58, 86, 100, 106, 110, 201, 202, 203, 206, 207 ลงป้าย Gion
  • จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถบัสสาย 100 หรือ 206 ลงป้าย Gion

สถานที่เที่ยวใกล้เคียง

ย่านกิออน (Gion)

กิออน gion

เป็นย่านที่มีเสน่ห์ของบ้านเรือนเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่นโบราณ และเป็นย่านที่หลายคนอยากมาชมเกอิชา (Geisha) ในชุดกิโมโนดั้งเดิมที่มีความสวยงาม ซึ่งเกอิชานั้นเป็นหญิงสาวที่มีความชำนาญทางศิลปะและทำหน้าที่ดูแลแขกในร้านน้ำชาที่เปิดในย่านแห่งนี้ เป็นอาชีพที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ย่านกิออนสามารถแบ่งได้เป็น 3 โซนหลักๆ ได้แก่

  • ถนนชิโจ (Shijo-dori) เป็นโซนถนนสายหลักระหว่างแม่น้ำคาโมะ (Kamo) สถานีรถไฟ Gion-Shijo และศาลเจ้า Yasaka
  • ฮานามิโคจิ (Hanamikoji) เป็นโซนระหว่างถนนชิโจ (Shijo-dori) ไปยังวัดเค็นนินจิ (Kenninji Temple) เป็นย่านเก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี โดยมีการปรับปรุงมาจิยะที่สร้างด้วยไม้ตามแบบดั้งเดิมให้เป็นร้านรวงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านขายขนม
  • กิออน ชิราคาว่า (Gion Shirakawa) เป็นโซนที่อยู่เรียบคลองชิราคาว่า (Shirakawa) ทางแยกที่มีสะพานหิน Gion Tatsumi Bridge

กิออน gion

วัดเค็นนินจิ (Kenninji Temple)

เป็นวัดในนิกายรินไซซึ่งเป็นนิกายหนึ่งของพุทธศาสนานิกายเซ็นในญี่ปุ่น และยังเป็นวัดที่ใหญ่เป็นอันดับสามในจำนวนห้าวัดใหญ่ของเกียวโตด้วย ไฮไลด์สำคัญที่ห้ามพลาดของวัดแห่งนี้คือ ภาพวาดมังกรคู่ขนาดใหญ่บนเพดานของหอธรรม และนอกจากนี้ยังมีผลงานศิลปะชั้นยอดของญี่ปุ่นจำนวนมากให้ได้ชมอีกด้วย

สวนสาธารณะมารุยามะ (Maruyama Park)

สวนสาธารณะมารุยามะ ตั้งอยู่ข้างศาลเจ้า Yasaka เป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองเกียวโต เป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นแบบที่เรียกว่าทางเดินรอบสระน้ำ (Chisenkaiyu-shiki) ซึ่งใช้ธรรมชาติของสระน้ำและหุบเขา แต่ละมุมก็จะมีเสน่ห์ความงามของธรรมชาติไม่เหมือนกัน ภายในสวนนั้นมีสระปลาคาร์ป และสวนซากุระ จุดเด่นของสวนนี้ก็คือต้นซากุระพันธุ์กิ่งย้อยที่อยู่กลางสวนสาธารณะ จึงทำให้สวนแห่งนี้เป็นจุดชมซากุระที่ดังที่สุดของเมืองเกียวโต

วัดน้ำใสคิโยมิสึ (Kiyomizu-dera Temple)

วัดน้ำใส Kiyomizu-dera

วัดน้ำใส หรือ วัดคิโยะมิซุ (Kiyomizu-dera) เป็นวัดที่สำคัญและเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น วัดนี้เป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญของศาสนาพุทธในประเทศญี่ปุ่น และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมมากในเกียวโต วัดนี้มีสถาปัตยกรรมสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อของชาวญี่ปุ่นในศาสนาพุทธอีกด้วย วัดแห่งนี้นับเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดในเกียวโต

บอกให้เพื่อนของคุณทราบ