ไปญี่ปุ่นซื้ออะไรดี ไอเท็มเด็ด น่าซื้อ น่าใช้ น่าเก็บ ห้ามพลาด!

“ไปญี่ปุ่นซื้ออะไรดี” คงเป็นคำถามที่หลายๆคน คิดหนัก และต้องเจอทุกครั้งเมื่อเดินทางไปญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดเที่ยว หรือนักท่องเที่ยวมืออาชีพ ก็คงต้องเจอคำถามนี้ ดังนั้นวันนี้ แบกเมียเที่ยว จึงได้รวบรวม ของฝากจากญี่ปุ่น น่าซื้อ น่าใช้ น่าเก็บ มาให้เพื่อนๆ เป็นไอเดียกัน จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันเลย

ไปญี่ปุ่นซื้ออะไรดี

ไปญี่ปุ่นซื้ออะไรดี ไอเท็มเด็ด น่าซื้อ น่าใช้ น่าเก็บ ห้ามพลาด!

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยวัฒนธรรมอันเก่าแก่ ธรรมชาติอันงดงาม อาหารอันโอชะ เทคโนโลยีล้ำสมัย ผู้คนที่มีมารยาท และความปลอดภัยสูง ไม่ว่าคุณจะเป็น นักเดินทางสายวัฒนธรรม นักผจญภัย นักชิม แฟชั่นนิสต้า หรือสายเทค ญี่ปุ่นมีสิ่งที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

การเดินทางไปญี่ปุ่น นอกเหนือจากการได้สัมผัสวัฒนธรรม ธรรมชาติ และอาหารอันโอชะแล้ว ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ นั่นคือการ “ซื้อของฝาก” กลับมาให้กับตัวเอง ครอบครัว และเพื่อนฝูง แต่ด้วยความที่มีสินค้าหลากหลายชนิด หลายแบรนด์ หลายราคา หลายสไตล์ หลายฟังก์ชั่น อาจทำให้หลายคนตัดสินใจเลือกซื้อของฝากได้ยาก

ของฝากจากญี่ปุ่น ขนมญี่ปุ่น

ขนมญี่ปุ่นมีหลากหลายประเภท ทั้งแบบดั้งเดิมและแบบสมัยใหม่ ขนมญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งรสชาติ รูปลักษณ์ และกรรมวิธีการทำ จึงทำให้เป็นที่นิยมสำหรับนักเที่ยวในการซื้อเป็นของฝาก ตัวอย่าง ขนมญี่ปุ่นยอดนิยมของคนไทยตลอดกาล

ของฝากญี่ปุ่น

  • ขนมคิทแคทหลากหลายรสชาติ
  • ขนมโมจิ
  • ขนมโตเกียวบานาน่า
  • ช็อกโกแลต Royce’
  • ขนมกูลิโกะ
  • นิวยอร์คเพอร์เฟคชีส (New York Perfect Cheese)
  • คุกกี้ชิโรอิ โคยบิโตะ (Shiroi Koibito)

ของฝากจากญี่ปุ่น เครื่องสําอางและสกินแคร์

เครื่องสำอางและสกินแคร์ญี่ปุ่นมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพดี ปลอดภัย และราคาไม่แพง นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาซื้อเพื่อใช้เอง และเป็นของฝาก แบรนด์เครื่องสำอางญี่ปุ่นยอดนิยม เช่น Shiseido, Kose, Kanebo, SK-II, DHC, Bifesta, Biore, Hada Labo เป็นต้น ตัวอย่างเครื่องสำอางและสกินแคร์ ที่นิยม

มาส์กหน้าญี่ปุ่น Keana

  • แผ่นมาร์คหน้า
  • โฟมล้างหน้า
  • น้ำตบหน้า
  • โลชั่นบำรุงผิว
  • ลิปบาล์ม
  • ดินสอเขียนคิ้ว

ของใช้ในชีวิตประจำวันและแฟชั่น

ของใช้ในชีวิตประจำวันของญี่ปุ่นนั้นก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาทั้งซื้อฝากและซื้อมาใช้เอง เนื่องจากมีความเป็นเอกลักษณ์ และราคาไม่แพง อย่างเช่น

ของฝากจากญี่ปุ่น

  • ของฝากจากญี่ปุ่น ตะเกียบ
  • ของฝากจากญี่ปุ่น ผ้าเช็ดหน้า
  • ของฝากจากญี่ปุ่น แก้วน้ำ
  • ของฝากจากญี่ปุ่น กระเป๋า แบรนด์กระเป๋าที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี เช่น BAO BAO by ISSEY MIYAKE, Anello
  • ของฝากจากญี่ปุ่น รองเท้า แบรนด์องเท้าที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี เช่น Nike, Adidas, Onitsuka, On เป็นต้น
  • ของฝากจากญี่ปุ่น นาฬิกา แบรนด์นาฬิกาที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี เช่น Casio, G-Shock, Seiko, Citizen เป็นต้น

ของที่ระลึก

  • ฟิกเกอร์ สินค้าเกี่ยวกับอนิเมะ ญี่ปุ่นคือดินแดนแห่งอนิเมะ ทำให้มีสินค้าจากการ์ตูน เช่น ของเล่น ตุ๊กตา กันพลา ฟิกเกอร์ อยู่เยอะมากๆ
  • โมเดลอาหาร ของที่ระลึกที่แสดงความเป็นญี่ปุ่น
  • พวงกุญแจ เป็นรูปสถานที่ หรือตัวละคร ที่เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
  • เครื่องราง วัดญี่ปุ่น (Japanese Charm) ญี่ปุ่น นั้นมีวัดและศาลเจ้าอยู่หลายที่ ซึ่งแต่ละศาลเจ้าก็จะมีเครื่องรางให้เลือกหลายสรรพคุณ

ยารักษาโรค

ต้องบอกเลยว่ายาญี่ปุ่นของเค้าดีจริงๆ นับเป็นไอเทมยอดฮิต ที่ไม่ว่าใครไปญี่ปุ่นก็ต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับมา

ของฝากญี่ปุ่น

  • ยาแก้ปวด EVE
  • แผ่นแปะร้อนใน
  • ที่ปิดตาสมุนไพร
  • แผ่นแปะแก้ปวด

ของฝากอื่นๆ

ของฝากจากญี่ปุ่น

  • อุปกรณ์ชงชา: ญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องชาเป็นอย่างมาก อุปกรณ์ชงชาของญี่ปุ่นจึงมีให้เลือกหลากหลายเหมาะแก่การซื้อเป็นของฝาก และของสะสม
  • เครื่องเขียน: ญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องเขียนทั้งคุณภาพ และความน่ารักน่าสะสม ไม่ว่าจะเป็น ปากกาลบได้ ปากกาเปลี่ยนไส้ได้ ดินสอ เทปลายน่ารักๆ และสมุดโน๊ตลายต่างๆ เป็นต้น

สถานที่ซื้อของฝาก

1. ร้าน Don Quijote (ดองกี้โฮเต้)

Don Quijote (ดองกี้โฮเต้) หรือที่คนไทยมักเรียกว่า “ร้านดองกี้” เป็นร้านขายสินค้าปลีกขนาดใหญ่ ที่โด่งดังในประเทศญี่ปุ่น มีสาขามากกว่า 600 สาขา ทั่วประเทศญี่ปุ่น มีสินค้าหลากหลายประเภท ครบครัน ในราคาที่ย่อมเยา เช่น ขนม ของกิน, ของใช้ส่วนตัว, เครื่องสำอาง, ยา, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เสื้อผ้า, ของเล่น, ของที่ระลึก นักท่องเที่ยวนิยมมาซื้อของฝากกัน เพราะที่นี้เป็นร้านขายสินค้าปลอดภาษี ที่เปิด 24 ชั่วโมง

2. ร้าน Matsumoto Kiyoshi (มัตสึโมโตะ คิโยชิ)

Matsumoto Kiyoshi (มัทสึโมโตะ คิโยชิ) เป็นร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีสาขามากกว่า 1,800 สาขา ทั่วประเทศญี่ปุ่น มีสินค้าหลากหลายชนิดให้เลือก ในราคาที่ย่อมเยา โดยเฉพาะสินค้าจำพวก ยา, เครื่องสำอาง, และอาหารเสริม นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ที่เข้าร้านนี้มักนิยมซื้อยา และอาหารเสริมกัน ทั้งใช้เองและเป็นของฝาก ซึ่งร้านนี้ก็เป็นร้านค้าปลอดภาษีเช่นเดียวกัน

3. ร้าน Tokyu Hands (โตคิว แฮนด์)

  • ร้านขายอุปกรณ์ DIY
  • มีสินค้าหลากหลายชนิด
  • มีสินค้าแปลกใหม่
  • มีสินค้าราคาปานกลาง

4. ร้าน 100 Yen Shop (ร้าน 100 เยน)

  • ร้านขายสินค้าราคา 100 เยน (ไม่รวมภาษี)
  • มีสินค้าหลากหลายชนิด
  • มีสินค้าราคาประหยัด
  • มีสาขากระจายอยู่ทั่วญี่ปุ่น

5. ตลาด

ตลาดปลาซึกิจิ (tsukiji fish market)

ญี่ปุ่น มีแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย หนึ่งในแหล่งช้อปปิ้งที่น่าสนใจไม่น้อย ก็คือบรรดาตลาดต่างๆ ที่มักจะมีของท้องถิ่น ของทำมือ ของแอนทีคโบราณ ของกิน ของที่ระลึก ของฝากเก๋ๆ หรือแม้กระทั่งของมือสอง หลากหลายสไตล์ ที่สำคัญราคาไม่แพง เรียกได้ว่า เหมือนเป็นแหล่งแสดงความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ของเหล่าพ่อค้าแม่ค้าและนักช้อปทั้งหลายด้วย ตลาดยอดนิยมที่คนไทยเรารู้จักกันดีก็เช่น ตลาดปลาสึคิจิ (Tsukiji fish market) ที่โตเกียว, ตลาดคุโรมง (Kuromon) ที่โอซาก้า เป็นต้น

หากอยากรู้ว่าตลาดในโตเกียวมีที่ไหนบ้าง และแต่ละที่ขายอะไร สามารถไปดูเพิ่มเติมได้ที่ 7 ตลาดในโตเกียวยอดฮิต เอาใจสายช้อป

6. ร้านขายของฝากตามสถานที่ท่องเที่ยว

  • มีสินค้าของฝากเฉพาะท้องถิ่น
  • มีสินค้าราคาปานกลางถึงสูง
  • สะดวกในการซื้อ

7. แหล่งช้อปปิ้งอื่นๆ

Shibuya Crossing

  • อากิฮาบาระ (Akihabara)

อากิฮาบาระ (Akihabara) เป็นแหล่งช้อปปิ้งในโตเกียว ที่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า และขายสินค้าเกี่ยวกับการ์ตูนอะนิเมะ (anime), มังงะ(manga), วิดีโอเกมส์, เกมส์ไพ่, ชุดของสะสมหายาก, สินค้าเกี่ยวกับการ์ตูนหรือไอดอลญี่ปุ่น ที่ใหญ่ที่สุด นอกจากร้านค้าแล้วยังมีคาเฟ่ชื่อดังตั้งอยู่มากมาย

  • กินซ่า (Ginza)

กินซ่า (Ginza) ย่านธุรกิจสำคัญของกรุงโตเกียว และเป็นที่รู้จักในฐานะ ย่านช้อปปิ้งที่มีความหรูหรามากที่สุด เต็มไปด้วยช็อปแบรนด์เนม ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และร้านอาหารอันหรูหรา

  • ชิบูย่า (Shibuya)

ชิบูย่า (Shibuya) ย่านนี้ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของแหล่งช้อปปิ้งของหนุ่มสาว ในโตเกียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านแฟชั่น ที่นี่มีศูนย์การค้าขนาดกลางและขนาดใหญ่นับสิบแห่ง อาทิ SHIBUYA109, Shibuya Hikarie, Shibuya Scramble Square, Tokyu, Parco เป็นต้น

เดนเดนทาวน์ (DENDEN Town) เป็นย่านยอดนิยมในโอซาก้า ขึ้นชื่อเรื่องร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า และร้านเกี่ยวกับอนิเมะ (คล้ายกับ อากิฮาบาระในโตเกียว)

  • ย่านนัมบะ(Namba)

ย่านนัมบะ(Namba) เป็นแหล่งช้อปปิ้งศูนย์กลางแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้า เต็มไปด้วยร้านอาหาร แหล่งบันเทิง ร้านค้าช้อปปิ้งต่างๆ มากมาย

หากอยากรู้ว่าแหล่งช้อปปิ้งอื่นๆมีที่ไหนอีกบ้าง และแต่ละที่ขายอะไร สามารถไปดูเพิ่มเติมได้ที่ ตะลุย 10 แหล่งช้อปปิ้งโตเกียว สวรรค์ของนักช้อป หรือ 7 แหล่งช้อปปิ้งโอซาก้า ที่สายช้อป ต้องห้ามพลาด

เทคนิคการเลือกซื้อของฝาก

การเลือกซื้อของฝากเป็นสิ่งที่หลายคนต้องเผชิญเมื่อเดินทางไปไหนมาไหน ของฝากที่ดีควรแสดงถึงความใส่ใจ และสร้างความประทับใจให้กับผู้รับ เทคนิคการเลือกซื้อของฝากมีดังนี้

เทคนิคการซื้อของฝาก:

1. กำหนดงบประมาณ

  • ก่อนเริ่มช้อปปิ้ง สิ่งสำคัญคือต้องกำหนดงบประมาณสำหรับการซื้อของฝากก่อน เพื่อไม่ให้ใช้จ่ายเกินตัว

2. เลือกซื้อของฝากที่เหมาะกับผู้รับ

  • เพศ: ของฝากสำหรับผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก ผู้สูงอาย อาจจะแตกต่างกัน
  • วัย: ของฝากสำหรับเด็ก อาจจะเน้นของเล่น ของใช้ที่สนุกสนาน
  • ความสนใจ: เลือกซื้อของฝากที่ตรงกับความสนใจของผู้รับ

3. การเลือกซื้อของฝากที่มีเอกลักษณ์ 

  • การเลือกซื้อของฝากที่มีเอกลักษณ์เฉพาะญี่ปุ่น หรือเป็นของขึ้นชื่อของสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ จะทำให้ผู้รับรู้สึกพิเศษ และรู้สึกประทับใจ อีกทั้งยังสามารถเก็บเป็นความทรงจำที่ดีในการท่องเที่ยวอีกด้วย

4. เลือกซื้อของฝากที่มีราคาเหมาะสม

  • เปรียบเทียบราคาสินค้าจากหลายร้าน
  • เลือกซื้อสินค้าที่มีโปรโมชั่น
  • เลือกซื้อสินค้าขนาดทดลองใช้

5. เลือกซื้อของฝากที่มีขนาดกะทัดรัด

  • คำนึงถึงขนาดและน้ำหนักของกระเป๋าเดินทาง ของฝากจะต้องไม่มีขนาดใหญ่ หรือน้ำหนักมากจนเกินไป เพราะเราจะต้องแพ็คใส่กระเป๋าเดินทาง
  • เลือกซื้อของฝากที่สามารถพกพาสะดวก ของฝากจะต้องเก็บใส่กระเป๋าเดินทางได้ง่าย หรือพกพาได้สะดวก

6. เลือกซื้อของฝากที่มีอายุการเก็บรักษานาน

  • เลือกซื้อของฝากที่ไม่เสียง่าย
  • ตรวจสอบวันหมดอายุของสินค้า

7. จดรายการของฝาก

  • จดรายการของฝากที่ต้องการซื้อ การจดรายการที่ต้องการซื้อจะช่วยให้เราใช้เวลาในการช้อปปิ้งได้อย่างคุ้มค่า ได้ของครบถ้วน และสามารถตรวจสอบได้ว่าซื้อครบตามรายการหรือไม่

8. เผื่อเวลาสำหรับการช้อปปิ้ง

  • การเผื่อเวลาสำหรับการช้อปปิ้ง เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการช้อปปิ้งในประเทศที่เราไม่คุ้นเคย เราต้องใช้เวลาในการเดินหาร้านและเลือกซื้อสินค้าที่เราต้องการจะซื้อ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องมีการวางแผนล่วงหน้า และให้เผื่อเวลาไว้เยอะๆ เพื่อนๆ จะได้ช้อปปิ้งได้อย่างสนุก และได้ของครบตามต้องการ

สิ่งสำคัญที่ควรรู้:

1. สินค้าปลอดภาษี (Tax Free)

ไปญี่ปุ่นซื้ออะไรดี

นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น สามารถซื้อสินค้าปลอดภาษีได้ โดยไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 10% ร้านค้าปลอดภาษีในประเทศญี่ปุ่น มีทั้งแบบร้านค้าทั่วไป และร้านค้าในห้างสรรพสินค้า โดยจะมีป้าย “Tax Free” ติดอยู่

เงื่อนไขการซื้อสินค้าปลอดภาษี

  • ต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น
  • ต้องซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ได้รับอนุญาตให้ขายสินค้าปลอดภาษี
  • ต้องซื้อสินค้าในราคาที่กำหนด หรือจำนวนที่กำหนด (ส่วนใหญ่กำหนดที่ 5,000 เยนขึ้นไป)
  • ต้องแสดงพาสปอร์ต เมื่อทำการซื้อทุกครั้ง

**ข้อควรระวัง**

  • ต้องเก็บใบเสร็จ และใบรับรองการซื้อสินค้าปลอดภาษี ไว้จนกว่าจะเดินทางออกนอกประเทศ (บางครั้งจะมีเจ้าหน้าที่ของสนามบินญี่ปุ่น เรียกตรวจ)
  • ห้ามนำสินค้าปลอดภาษี กลับเข้าประเทศญี่ปุ่น และห้ามแกะสินค้าใช้ในประเทศญี่ปุ่น เมื่อซื้อสินค้าปลอดภาษีแล้ว ทางร้านห่อสินค้ามาให้เรายังไง เราต้องแพ็คใส่กระเป๋าเดินทางทั้งแบบนั้น ห้ามแกะเด็ดขาด หากโดนตรวจเจอจะโดนปรับ ซึ่งแพงกว่าค่าของที่เราซื้อไปแน่นอน

2. กฎระเบียบการนำสินค้าเข้าประเทศไทย

  • ควรตรวจสอบกฎระเบียบการนำสินค้าเข้าประเทศไทยก่อนการซื้อ เพราะหากซื้อมาแล้วไม่สามารถนำเข้าได้ นอกจากจะเสียเงินฟรีแล้ว ของบางอย่างอาจจะทำให้เราโดนปรับได้

    สุดท้ายนี้ แบกเมียเที่ยว หวังว่าบทความ ไปญี่ปุ่นซื้ออะไรดี จะเป็นประโยชน์สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนไปญี่ปุ่น ขอให้ สนุกกับการเที่ยวและการช้อปปิ้ง ที่สำคัญอย่าลืมเผื่อเวลาสำหรับการช้อปปิ้งกันด้วยหล่ะ ถ้าได้ของไม่ครบ จะมานั่งเสียใจที่หลังไม่ได้น้าา…

    บอกให้เพื่อนของคุณทราบ