หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองของญี่ปุ่น เราขอแนะนำ ปราสาทนิโจ (Nijo Castle) ปราสาทที่มีชื่อเสียงอย่างมากและยังเป็นมรดกโลกอันน่าทึ่ง ที่มีอายุมากถึงหลายร้อยปี แห่งเมืองเกียวโต มาลองย้อนเวลากลับไปในอดีตของญี่ปุ่นและมาสัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวเกียวโตที่แสนสำคัญที่ปราสาทนิโจกันเลย
ปราสาทนิโจ (Nijo Castle) แหล่งมรดกโลกที่ต้องไปเยือน
ปราสาทนิโจ ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี 1603 เพื่อเป็นที่พักของโชกุนคนแรกแห่งยุคเอโดะ โทคุงาวะ อิเอยาสุ ปราสาทแห่งนี้ขึ้นชื่อในด้านสถาปัตยกรรมที่สวยงาม สวนบรรยากาศดี และความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก
ปราสาทนิโจ ประวัติ
ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1603 ในสมัยเอโดะ โดยเป็นที่พำนักของโทกูงาวะ อิเอยาซุ โชกุนคนแรกของยุคเอโดะ และได้รับการขยายและปรับปรุงโดยหลานชายของเขา Tokugawa Iemitsu ในศตวรรษที่ 17 ปราสาทแห่งนี้เคยทำหน้าที่เป็นวังของจักรพรรดิในช่วงเวลาสั้น ๆ ระหว่างการฟื้นฟูเมจิ เมื่อจักรพรรดิย้ายจากเกียวโตไปยังเอโดะ (โตเกียวในปัจจุบัน)
ต่อมาในปี 1750 ป้อมปราการกลางของปราสาทถูกฟ้าผ่า และถูกเผาจนพังทลายลง ปี 1788 พระราชวังชั้นในถูกเพลิงไหม้เนื่องจากเหตุอัคคีภัยที่เกิดขึ้นทั่วเมือง ทั้งบริเวณถูกปล่อยทิ้งร้าง ปี 1867 โทกูงาวะ โยชิโนบุได้ใช้พระราชวังนิโนมารุเป็นสถานที่ประกาศการคืนอำนาจให้แก่รัฐบาล และปีถัดมาได้จัดการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีภายในปราสาท และในปี 1939 พระราชวังถูกมอบให้เป็นสมบัติของนครเกียวโต เปิดให้ประชาชนได้เข้าชมในปีถัดมา
ปราสาทนิโจมีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งมี “พื้นนกไนติงเกล” ที่ส่งเสียงดังเพื่อเตือนผู้อยู่อาศัยให้ระวังผู้บุกรุก ปราสาทแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักจากสวนสวยและภาพวาด ซึ่งพรรณนาฉากจากตำนานและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น
ปัจจุบัน ปราสาทนิโจได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกของยูเนสโก้ (UNESCO) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในเกียวโต และเป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดสำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น
Nijo Castle รีวิว
ปราสาทนิโจ เป็นปราสาทสถาปัตยกรรมญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยป้อมปราการที่เรียงตัวเป็นวงแหวนสองชั้น แต่ละชั้นจะมีทั้งกำแพงและคูน้ำกว้าง อีกทั้งยังมีกำแพงล้อมรอบพระราชวังนิโนมารุ (Ninomaru) อีกชั้นหนึ่ง กำแพงชั้นนอกของป้อมปราการมีประตูอยู่ 3 ประตู ส่วนกำแพงชั้นในมีอยู่ 2 ประตู ที่มุมทางตะวันตกเฉียงใต้ของกำแพงชั้นใน มีซากของป้อมปราการห้าชั้น ซึ่งถูกเพลิงไหม้จนพังทลายเมื่อ พ.ศ. 2293 ภายในกำแพงชั้นในเป็นที่ตั้งของพระราชวังฮมมารุ (Honmaru) และสวน ระหว่างวงแหวนป้อมปราการทั้งสองชั้น เป็นที่ตั้งของพระราชวังนิโนมารุ โรงครัว ป้อมสังเกตการณ์ และสวนหย่อมอีกจำนวนมาก อาณาบริเวณของปราสาทมีพื้นที่ทั้งหมด 275,000 ตารางเมตร พื้นที่ของปราสาทนิโจ ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1. นิโนมารุ (Ninomaru)
พระราชวังนิโนมารุ เป็นพื้นที่อาศัยของโชกุน สร้างด้วยไม้สนฮิโนกิเกือบทั้งหลัง ประดับด้วยใบไม้สีทองและไม้แกะสลักลวดลายสวยงาม ตัวอาคารเชื่อมต่อกันทั้งหมด 6 อาคาร นับเป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรม Shoin-zukuri โดยมีทางเดินเชื่อมถึงกัน ทางเดินนี้มีลักษณะพิเศษคือ จะส่งเสียงดังคล้ายเสียงนกไนติงเกล เมื่อมีคนเดินผ่าน ซึ่งเป็นการเตือนเมื่อมีผู้บุกรุกเข้ามา เรียกว่า “พื้นไนติงเกล” สำหรับพื้นในแต่ละห้องจะปูด้วยเสื่อทาทามิ (Tatami) และมีประตูเลื่อน ผนังของแต่ละห้องมีภาพเขียนฝาผนังโดยจิตรกรจากโรงเรียนคาโนตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม แสดงถึงความหรูหรา โอ่อ่า ภายในอาคารมีห้องต้อนรับ ห้องทำงาน และห้องพักอาศัยของโชกุนอยู่หลายห้อง ในอดีตส่วนนี้เป็นส่วนที่อนุญาตให้เฉพาะผู้รับใช้หญิงเข้าได้เท่านั้น ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมบริเวณนี้ได้แต่ห้ามถ่ายรูปด้านใน
2. ฮอนมารุ (Honmaru)
พระราชวังฮมมารุเดิมเป็นที่รู้จักในชื่อว่า พระราชวังคัตสึระ ก่อนที่จะย้ายมายังตำแหน่งปัจจุบันและเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็นอาคารที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับราชวงค์ของจักรพรรดิ์ ประกอบไปด้วย 4 ส่วน ได้แก่ ส่วนพักอาศัย ส่วนต้อนรับ โถงทางเข้า และโรงครัว ส่วนต่าง ๆ เชื่อมถึงกันด้วยระเบียงทางเดินและสนาม ลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบยุคเอโดะช่วงหลัง บริเวณใจกลางปราสาท มีคลองเล็กๆ ล้อมรอบ
3. สวนและอุทยาน
ในบริเวณปราสาทมีสวนและอุทยานอยู่หลายแห่ง เช่น สวนซากุระ สวนบ๊วย สวนต้นพลัม อุทยานนิโนมารุได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกผู้ออกแบบสวนที่มีชื่อเสียง ถือเป็นสวนสไตล์ Shoin-zukuri ตั้งอยู่ระหว่างวงแหวนป้อมปราการสองชั้น และอยู่ถัดจากพระราชวังนิโนมารุ ภายในอุทยานมีสระน้ำขนาดใหญ่ที่มีเกาะอยู่ 3 เกาะ มีสวนหินที่จัดวางอย่างสวยงาม และต้นสนตัดแต่ง
อุทยานเซริวเป็นส่วนที่สร้างขึ้นล่าสุดในบริเวณปราสาทนิโจ ทางทิศเหนือของบริเวณปราสาท ภายในมีโรงชงชา 2 หลัง เพื่อเป็นสถานที่ต้อนรับแขกผู้มาเยือนเมืองเกียวโตอย่างเป็นทางการ และเป็นสถานที่จัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม
ปราสาทนิโจ ค่าเข้า
ค่าเข้าชม:
- ผู้ใหญ่ 600 เยน
- เด็กมัธยม 350
- เด็กประถม 200
ปราสาทนิโจ เวลาเปิดปิด
- เวลาเปิด: 8:45 – 17:00 น. (เวลาเข้าชมรอบสุดท้าย 16:00), นิฮอนมารุ : 9:00 – 16:00 น.
- วันปิดทำการ:
– ปิดทุกวันอังคารของเดือนมกราคม, กรกฎาคม, สิงหาคมและธันวาคม
– ปิดตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม ถึง 4 มกราคมของทุกปี
ปราสาทนิโจ การเดินทาง
รถไฟใต้ดิน:
- จากสถานีเกียวโต ให้ขึ้น Karasuma Line ไปลงที่สถานี Karasuma Oike ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line ไปลงที่สถานี Nijojo-mae Sta (Nijo-jo Castle) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 6-10 นาที
รถบัส:
- ขึ้นรถบัสจาก Kyoto Ekimae รถเบอร์ 9 ไปลงที่ Nijojo mae แล้วเดินอีกเพียง 1 นาที