15 ที่เที่ยวเขาค้อ ดินแดนแห่งขุนเขา และสายหมอก

เขาค้อ เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดเพชรบูรณ์ เหตุที่เรียกกันว่า เขาค้อ เพราะป่าบริเวณนี้เดิมมีต้นค้อซึ่งเป็นไม้ตระกูลปาล์มขึ้นอยู่มาก ที่เที่ยวเขาค้อมีอยู่มากมาย แวดล้อมไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม ทั้งน้ำตก ถ้ำ เกาะ แก่ง หน้าผา จุดชมวิว และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่พัก ร้านอาหาร คาเฟ่ที่มีให้เลือกแบบครบครัน และภูมิอากาศบนเขาค้อก็เย็นสบายตลอดปีแม้ในฤดูร้อน โดยค่อนข้างเย็นจัดในฤดูหนาว ทำให้เขาค้อ คือ จุดหมายปลายทางหลักในการท่องเที่ยวและพักผ่อนท่ามกลางทะเลหมอก อันสวยงาม ของใครหลายๆคน

เรียกได้ว่า หากใครมาเที่ยวเพชรบูรณ์ แล้วไม่ได้ขึ้นมาถึงเขาค้อ ถือว่ายังมาไม่ถึงอย่างแท้จริง วันนี้เราจึงได้รวบรวม 15 ที่เที่ยวเขาค้อ ดินแดนแห่งขุนเขา และสายหมอก มาให้เพื่อนๆได้แวะเช็คอินชิลๆ บอกเลยว่าใครที่ไปเที่ยวเขาค้อต้องห้ามพลาด !

15 ที่เที่ยวเขาค้อ ดินแดนแห่งขุนเขา และสายหมอก

ทุ่งกังหันลม เขาค้อ

ถ้าพูดถึงแลนด์มาร์คแห่งเขาค้อที่สวยงามจะพลาดกับ ทุ่งกังหันลม ไม่ได้เลย ทุ่งกังหันลมเขาค้อ ตั้งอยู่บริเวณหมู่บ้านชาวเขา บ้านเพชรดำ ในตำบลทุ่งสมอ อำเภอเขาค้อ จุดที่ตั้งของโครงการอยู่บนยอดเนินเขาสูง กว่าระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,050 เมตร ตระหง่านบนที่ราบยอดเขาเนื้อที่ 350 ไร่ จึงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกล
มีต้นกังหันลมกระจายอยู่ในพื้นที่ จำนวน 24 ต้น แต่ละต้นมีความสูงประมาณ 100 เมตร ทำให้กลายเป็นจุดที่สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล ไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของอำเภอเขาค้อ
บริเวณทางเข้าจะมีร้านค้าจากกลุ่มชาวเขาให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเเวะซื้อ เยี่ยมชมเเละมีจุดชมวิวหลายจุดให้ได้ไปเก็บภาพ เช่นทุ่งดอกเวอร์บีน่าสีม่วงสดใส ไร่สตรอเบอรี่ กิจกรรมโล้ชิงช้าม้ง และนั่งรถสามล้อเลื่อนชาวเขา หรือฟอร์มูล่าม้ง

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 6.00 น. – 18.00 น. โดยมีรถรางนำชมวิว คิดค่าบริการคนละ 60 บาท โดยสามารถวนนั่งรถต่อได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้รถบริการคันเดิม

การเดินทาง: เข้าไปยังทุ่งกังหันลมเขาค้อ เส้นทางเป็นถนนลาดยางตลอดเส้นทาง จากถนนสายหลัก 2196 หากมาจากแคมป์สนก็เลยแยกทุ่งสมอไป 3 กม. จะมีป้ายหมู่บ้านเพชรดำ ให้เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 10 กม.ก็จะถึงทุ่งกังหันลม หรือสังเกตง่ายๆ จากเสาไฟฟ้าต้นใหญ่จากโครงการนั่นเอง

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

มาเขาค้อทั้งทีถ้าไม่มาวัดผาซ่อนเเก้วถือว่ามาไม่ถึงเขาค้อ เพราะวัดผาซ่อนเเก้วถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเขาค้อยอดฮิต วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ตั้งอยู่ ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เป็นวัดที่มีทิวทัศน์งดงาม รายล้อยด้วยทิวเขาสูงสลับซับซ้อน มีความงดงามของของเจดีย์ คือ ลวดลายการตกแต่งด้วยถ้วยกระเบื้อง หินสีต่างๆ ดูงดงามแปลกตา รวมทั้ง องค์พระพุทธรูปสีขาว ประดิษฐานเรียงกัน 5 องค์ มองเห็นโดดเด่นแต่ไกล ความโดดเด่นที่ไม่เหมือนที่ไหนของ เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้วก็คือ การนำวัสดุต่างๆ ทั้ง เครื่องเบญจรงค์ เครื่องประดับ ลูกปัด ลูกแก้ว กระเบื้องสี มาตกแต่งพระธาตุ ทำให้ที่นี่สวยงามมากๆ และแฝงไปด้วยปริศนาธรรม

นอกจากจะได้มาเที่ยว ทำบุญ ไหว้พระ เดินชมวัดสวยๆเเล้ว ที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วนี่ยังเป็นอีก จุดชมวิวสวยๆของเขาค้ออีกด้วย ถ้าได้มาเที่ยวชมในช่วงเช้าตรู่แล้ว เราจะได้สัมผัสกับหมอกเย็นๆ วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และความเงียบสงบ

เวลาทำการเปิด-ปิด : ทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น.

การเดินทาง: จากเพชรบูรณ์ผ่านตัวเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์มาสักระยะ จนใกล้หลักกิโลเมตรที่ 260ให้สังเกตอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมืองทางซ้ายมือ และเลี้ยว ซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 12 หล่มสัก-พิษณุโลก ขับต่อไปยังทางหลวงหมายเลข 12 ประมาณ 30 นาที หลัก กิโลเมตรที่ 103

มีจุดสังเกตคือ อบต.แคมป์สนอยู่ทางขวามือ และธนาคารกสิกรไทย เยื้องขึ้นไปทาง ซ้ายมือ ตรงไปกลับรถ และจะเห็นป้าย พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว อยู่ปากซอยทางเข้า หมู่บ้านทางแดง ซึ่งอยู่ด้านข้าง อบต.แคมป์สน เลี้ยวซ้ายเข้าไป ตรงตลอดจนเห็นสะพานทางเข้าวัด เลี้ยวขวาข้ามสะพานและจอดรถ ณ บริเวณที่จัดไว้

พระตำหนักเขาค้อ

พระตำหนักเขาค้อ เป็นพระตำหนักที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ตั้งอยู่บนเขาย่า เป็นจุดสูงสุดของเขาค้อ สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1,050 เมตร เมื่อยืนอยู่บริเวณพระตำหนัก จะมองเห็นทัศนียภาพสวยงามมาก

ลักษณะตัวอาคารพระตำหนักเขาค้อ เป็นอาคารชั้นเดียวติดต่อกัน เป็นรูปครึ่งวงกลม มีอาคารบางส่วน สร้างเป็นสองชั้น ชั้นบนเป็นห้องบรรทมของประบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ชั้นล่างแบ่งเป็นด้านซ้ายและขวา ด้านซ้ายเป็นห้องพระราชทางเลี้ยง ห้องเสวย และห้องเข้าเฝ้าฯ ส่วนด้านขวาเป็นห้องบรรทมของพระบรมวงศานุวงศ์ใกล้กับพระตำหนักมีห้องพักของข้าราชบริพาร จำนวน 12 ห้อง สร้างเป็นรูปครึ่งวงกลม เนื่องจากพระตำหนักเขาค้อ ตั้งอยู่บนเขาย่า ซึ่งเป็นเขาที่สูงที่สุดในบริเวณเขาค้อ จึงมีทางขึ้นที่ค่อนข้างลาดชัน ต้องใช้รถยนต์ที่มีกำลังดี จึงสะดวกสำหรับการขึ้นไปเที่ยวชม ซึ่งนอกจากการเที่ยวชมพระตำหนักภายใน และสวนดอกไม้แล้ว ยังสามารถชมวิวมุมสูงได้จากบริวณจุดชมวิว ด้านข้างพระตำหนัก

ส่วนนักท่องเที่ยวที่รักความท้าทาย ยังสามารถขึ้นชมยอดเขาย่า ได้จากทางพระตำหนักนี้ได้เช่นกัน โดยการเดินเท้าขึ้นต่อไปยังยอดเขาย่า ระยะทางประมาณ 770 เมตร ด้านบนยอดเขาย่าจะมีฐานปฏิบัติการทางทหาร เดิมที่ใช้ในการต่อสู้กับ ผกค. (ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์) และสามารถชมวิวได้โดยรอบ สามารถมองลงมายังพระตำหนักเขาค้อ ด้านล่างด้วย ที่จุดชมทิวทัศน์ยอดเขาย่า มีศาลาชมวิว ชื่อศาลาพระเทพ อยู่ยอดเขาย่า ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,305 เมตร ศาลาแห่งนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ 360 องศา

เวลาทำการเปิด-ปิด : 06.00-18.00 น. (ต้องแต่งกายสุภาพ)

การเดินทาง: เมื่อขับรถตามทางหลวงหมายเลข 2258 ถึงหลักกิโลเมตรที่ 25 จะเห็นป้ายพระตำหนักเขาค้อ ให้เลี้ยวขึ้นไปพระตำหนักเขาค้อระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร ช่วงนี้เส้นทางขึ้นเขารถบัสไม่สามารถขึ้นได้ (รถตู้ขึ้นได้) ให้ขับรถอย่างระมัดระวัง และจะเจอทางแยกให้รถขึ้นและลงคนละทาง ให้ไปตามทางขึ้นจนถึงประตำหนัก การเดินทางใกล้ถึงพระตำหนักเขาค้อทางค่อนข้างชัน ขับรถต้องใช้ ความระมัดระวังมาก และรถที่ใช้ต้องมีสภาพดี เครื่องยนต์กำลังสูง

ภูแก้วพีค

ขอบคุณภาพจาก FB: Phukaew Resort & Adventure Park

ภูแก้วพีค ตั้งอยู่ภายใน ภูแก้วรีสอร์ท & แอดเวนเจอร์ ปาร์ค (Phukaew Resort & Adventure Park) เป็นร้านกาแฟและจุดชมวิวเขาค้อ ซึ่งตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของ รีสอร์ท สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของ เขาค้อ ได้แบบพาโนรามา บริเวณลานชมวิวนั้น กว้างขวาง มีการตกแต่งอย่างสวยงาม และยังเป็น จุดชมวิวพระอาทิตย์ตก ที่สวยงามมากอีกด้วย

ไฮไลด์ของที่นี่คือ จุดถ่ายภาพยอดฮิตที่สวยงามหลายจุด โดยเฉพาะจุดชมวิว อุ้งมือยักษ์ ที่เป็นทางเดินยื่นออกไปแบบยกสูงลอยฟ้า เป็นจุดที่ใครไปต้องไม่พลาดถ่ายรูปเช็คอิน นอกจากนี้ใกล้ๆจุดชมวิว ยังมีร้านกาแฟ ให้บริการเครื่องดื่มและอาหารทานเล่น ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเขาค้อได้แบบพาโนรามาเลยทีเดียว

ขอบคุณภาพจาก FB: Phukaew Resort & Adventure Park

การขึ้นภูแก้วพีคต้องใช้บริการของรถรีสอร์ทขึ้นไปเท่านั้น เนื่องจากทางค่อนข้างแคบและชันมาก โดยมีรถให้บริการตลอดทั้งวัน ค่าบริการท่านละ 20 บาท (มีทุกวัน เริ่มตั้งแต่ 06.00 น. – 19.00 น.) ถึงแม้ไม่ได้พักที่ภูแก้วรีสอร์ทก็สามารถใช้บริการได้ โดยจุดขึ้นรถอยู่ใกล้กับบริเวณเคาน์เตอร์เช็คอินของรีสอร์ท

เวลาทำการเปิด-ปิด : 10:00 – 20:00 (หยุดทุกวันพุธ)
การเดินทาง: 75 ม.14 ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ เพชรบูรณ์ ที่ตั้งอยู่ภายใน ภูแก้วรีสอร์ท & แอดเวนเจอร์ ปาร์ค เขาค้อ

The blue Sky Garden

The Blue Sky Garden ที่เที่ยวแห่งใหม่ในเขาค้อ สวนดอกไม้สวยอยู่ในอ้อมกอดแห่งขุนเขา ที่อยู่ใน The Blue Sky Resort Khao Kho เป็นสวนสไตล์อังกฤษที่กว้างขวางมากบนเนื้อที่กว่า 30 ไร่บรรยากาศเหมือนได้ไปต่างประเทศ และได้ฟีลเหมือนหลุดเข้าไปในโลกเทพนิยายเลย นอกจากจะชมดอกไม้สวยๆยังสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกยามเย็นฟินๆได้อีก

เวลาทำการเปิด-ปิด :

• การเข้าชมสวนดอกไม้ Bluesky Garden
  เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 – 18.00 น.
• รับประทานอาหารชมบรรยากาศสวนที่ Bluesky Restaurant
  เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น.
  

การเดินทาง: เดินทางโดยรถยนต์ จากตัวเมืองเพชรบูรณ์ ไปเดอะบลูสกายการ์เดน มีระยะทางประมาณ 65.2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที

The Front By BN Farm

ขอบคุณภาพจาก FB: The Front By BN Farm

หากคุณกำลังมองหาคาเฟ่สวยๆไว้ถ่ายรูปชิวๆ ต้องที่ The Front by BN Farm คาเฟ่กลางทุ่งดอกคอสมอสบนภูเขา ยิ่งถ้ามาช่วงหน้าหนาวจะเป็นช่วงที่ทุ่งดอกคอสมอสกำลังออกดอกบานสะพรั่งเต็มพื้นที่ มีวิวแบ็คกราวด์เป็นภูเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนเขียวขจี ถ่ายรูปออกมาแล้วงดงามสุดๆ อีกทั้งยังมีอากาศเย็นสบายชิลๆ เหมาะสำหรับการมาพักผ่อน มาถ่ายภาพเก็บความทรงจำกันในทุ่งดอกคอสมอสแห่งนี้

เวลาทำการเปิด-ปิด : 8.00 – 17.00 น. (ค่าเข้าชม 20 บาท)
การเดินทาง: จากบ้านแคมป์สน เขาค้อ กิโลเมตรที่ 100 ( ทางหลวงหมายเลข 10 ) มีทางแยกหมายเลข 2196 เข้าไปอีก 3 กิโลเมตร จะเห็นป้ายชี้ทางเข้าไร่ อีกประมาณ 3 กิโลเมตร

จุดชมวิวไปรษณีย์เขาค้อ

ใครกำลังมองหาที่ตั้งแคมป์กางเต็นท์สวยๆต้องไปที่ จุดชมวิวไปรษณีย์เขาค้อ ที่เที่ยวเขาค้อ เพชรบูรณ์ ถือเป็นจุดกางเต็นท์ที่สวยที่สุดของเขาค้อ เพราะตั้งอยู่บนเนินเขาสูง เหนือหุบเขาเบื้องล่าง ไม่มีสิ่งกีดขวางมาบดบังทัศนียภาพเบื้องหน้า เมื่อเวลามีทะเลหมอก สามารถมองเห็นได้อย่างเต็มตา 180 องศา

ที่นี่เป็นจุดกางเต็นท์ ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการกางเต็นท์บนเขาค้อ เพราะเดินทางสะดวก วิวสวย พื้นที่กว้างขวาง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตั้งอยู่ริมถนนสาย 2196 เยื้องกับเจดีย์กาญจนาภิเษก ซึ่งบริเวณใกล้กับจุดกางเต็นท์ มีร้านค้า ร้านอาหาร ไร่สตรอเบอรี่ ร้านสะดวกซื้อ และจุดชมวิวหลายแห่งเลยทีเดียว

การเดินทาง: จากตัวเมืองเพชรบูรณ์ ไปที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขเขาค้อ มีระยะทางประมาณ 46.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

จุดชมวิววัดกองเนียม

จุดชมวิววัดกองเนียมถือเป็นดินแดนในเทพนิยายแห่งสายหมอกเขาค้อ เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามแถมยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นอีกด้วย จะอยู่ริมถนนสาย 2196 ใกล้ทางขึ้นไปยังอนุสรณ์สถานเขาค้อ มีจุดเด่นก็คือจะมองเห็นต้นค้อท่ามกลางขุนเขาสลับซับซ้อนสวยงามมาก

การเดินทาง: จุดชมวิวจะอยู่ริมถนนสาย 2196 สามารถขับรถไปจอดที่จอดรถ แล้วเดินไปจุดชมวิวได้เลย

ไร่ GB เขาค้อ

ขอบคุณภาพจาก FB: ไร่GB เขาค้อ

ถ้าอยากได้ภาพถ่ายทุ่งดอกไม้สวยๆ บนเนินเขาสูง ต้องที่ ไร่จีบี สวยทั้งดอกไม้ และวิว นอกจากนี้ยังได้ลองท้าทาย กับรถฟอร์มูล่าม้ง และโล้ชิงช้าชาวเขา ที่เป็นไฮไลต์สนุกๆ อีกด้วย

ไร่จีบี เป็นของชาวเขาในพื้นที่เขาค้อ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเกษตร เดิมเป็นไร่สตรอเบอรี่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยว เข้าเที่ยวชม เก็บผลสตรอเบอรี่สีแดง รับประทานกันสดๆ ในไร่ และเริ่มนำดอกไม้พื้นเมืองมาปลูก ทำให้เกิดความสวยงามกับพื้นที่ ในที่สุดก็เปลี่ยนเป็นแปลงดอกไม้ขนาดใหญ่ ปลูกดอกไม้เมืองหนาวที่สามารถปลูกได้บนเขาค้อ หมุนเวียนให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม

ดอกไม้ที่โดดเด่นที่สุด คือดอกเวอร์บีน่า สีม่วงสด ซึ่งจะเริ่มบานเต็มทุ่งตั้งแต่ประมาณเดือนกันยายน – เดือนธันวาคม เป็นดอกเวอร์บีน่าเต็มทุ่งเนินเขา ที่สามารถถ่ายคู่กับวิวกังหันลม หรือวิวภูเขาด้านล่าง ที่มองเห็นไกลถึงผาซ่อนแก้ว นอกจากนี้ยังมีดอกไม้สวยๆ หมุนเวียนหลายชนิด เช่นดอกเสี้ยนฝรั่ง ดอกคอสมอส ดอกกระดาษ

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 7.00 – 18.00 น. (เก็บค่าเข้าชมคนละ 10 บาท)

การเดินทาง: จากถนนสายหลัก 2196 หากมาจากแคมป์สนก็เลยแยกทุ่งสมอไป 3 กม. จะมีป้ายหมู่บ้านเพชรดำ ให้เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 10 กม.เมื่อเห็นทุ่งกันหันลม ก็จะเจอกับไร่จีบี ซึ่งจะอยู่ห่างจากลานจอดของทุ่งกันหังลมนิดเดียว

ทุ่งดอกเวอร์บีน่า

ขอบคุณภาพจาก FB: ไร่GB เขาค้อ

หากไปไร่จีบีเเล้วไม่ควรพลาดทุ่งดอกไม้สีม่วง ดอกเวอร์บีน่าเขาค้อ ซึ่งตั้งอยู่ภายในไร่ GB ซึ่งตั้งอยู่ในเส้นทางเดียวกับทุ่งกังหันลมเขาค้อ ที่ตั้งอยู่บนหุบเขามองเห็นวิวทิเขาสลับซับซ้อน รวมถึงวิวของทุ่งกังหันลมอยู่เบื้องหน้า โดยปกติทุ่งดอกเวอบีน่าจะบานอวดโฉมในช่วงฤดฝนในเดือนมิถุนายน – สิงหาคม เพิ่มสีสันของการท่องเที่ยวบนเขาค้อได้มากยิ่งขึ้น นอกจากมีทุ่งดอกไม้แล้ว ยังมีชิงช้า ระเบียงชมวิว และ ร้านกาแฟ Mongker ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน รวมถึงยังมีทุ่งดอกเสี้ยนฝรั้งสีชมพูที่ปลูกอยู่ใกล้กันให้ได้เก็บภาพสวยๆเพิ่มอีกด้วย

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 7.00 – 18.00 น.

การเดินทาง: จากถนนสายหลัก 2196 หากมาจากแคมป์สนก็เลยแยกทุ่งสมอไป 3 กม. จะมีป้ายหมู่บ้านเพชรดำ ให้เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 10 กม.เมื่อเห็นทุ่งกันหันลม ก็จะเจอกับไร่จีบี ซึ่งจะอยู่ห่างจากลานจอดของทุ่งกันหังลมนิดเดียว

เขาตะเคียนโง๊ะ

เขาตะเคียนโง๊ะ อีกหนึ่งที่เที่ยวเขาค้อยอดนิยม เพราะเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งบนเขาค้อ ที่สามารถชมทะเลหมอกได้รอบทิศแบบ 360 องศา พร้อมบรรยากาศของพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า จากจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะสามารถมองเห็นวิวทิวเขาอันสวยงามที่อยู่เบื้องหน้าเป็นเขาปู่ เขาย่า ที่มีรูปทรงคล้ายภูเขาไฟฟูจิ รวมถึงผืนป่าของเขาค้อและเส้นทางถนนที่ทอดยาวมายังจุดชมวิวที่อยู่เบื้องล่าง การมาชมทะเลหมอกที่จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ ควรมาแต่เช้าตรู่ประมาณในช่วงเวลา 5.30-7.00 น. เพื่อมาเฝ้ารอแสงอาทิตย์ที่กำลังค่อยๆ พ้นออกมาจากขอบฟ้า ช่วงก่อนพระอาทิตย์ขึ้นจะได้เห็นแสงสีหลากหลายทั้ง ม่วง ชมพู ส้ม ผสมกัน รวมทั้งแสงไฟจากบ้านเรือนและที่พักบนเขาค้อ ที่อยู่ข้างล่าง ช่วงปลายฝนต้นหนาวตั้งแต่ปลายต.ค. – เดือนพ.ย. จะมีหมอกและแสงสวยๆ เพราะในเดือนนี้ยังมีความชื้นจากหน้าฝนสะสมอยู่ และเป็นช่วงเวลาที่ฝนเริ่มน้อยลง อากาศปลอดโปร่งท้องฟ้าแจ่มใส ทำให้ได้ทั้งทะเลหมอกและแสงสีที่สวยงามซึ่งเป็นความลงตัวที่สุดอีกอย่างหนึ่ง

การเดินทาง: จากบริเวณเขาค้อ ไปยังถนนหมายเลข 2258 ประมาณ 25 กิโลเมตร จะถึงทางสี่แยกรื่นฤดี ให้ตรงไปทางพระตำหนักเขาค้อ ประมาณ 6 กิโลเมตร ผ่าน ภูแม่ย่า ผ่านเกษตรที่สูง ผ่านวัดไชยชุมพล ขับตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นป้ายจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ มีทางเข้าเล็กๆ ขึ้นไปยังจุดชมวิว เส้นทางเป็นทางราดยางไปจนถึงจุดชมวิว

แก่งบางระจัน

ถ้าอยากสัมผัสธรรมชาติเเบบสุดๆต้องที่ แก่งบางระจัน เป็นแก่งน้ำใสไหลเย็น ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในแหล่งธรรมชาติ และวิถีชีวิตชุมชน โดยชุมชนท้องถิ่นเป็นผู้บริหารจัดการ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 6 ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งตำบลหนองแม่นาเป็นตำบลที่มีแหล่งธรรมชาติที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของอำเภอเขา ค้อ มีลำธาร ซึ่งมีลักษณะเป็นเกาะแก่งหินที่มีน้ำใสไหลเย็นตลอดทั้งปี ในฤดูฝนน้ำจะเอ่อท่วมแก่งมองไม่ค่อยเห็นก้อนหินสวยงามที่ซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ ส่วนช่วงหลังฤดูฝนน้ำจะลดลง ทำให้ความสวยงามของเกาะแก่งหินก็จะออกมาอวดความสวยงามต่อผู้ที่ไปเยือน

นอกจากความสวยงามแล้วยังเป็นแหล่งที่พบหอยก้นตัด ปลาพุงขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นปลาที่มีลักษณะคล้ายปลายี่สก หรือนวลจันทร์เป็นปลาล่าเหยื่อ (ปัจจุบันสงวนเป็นแหล่งขยายพันธุ์) และที่โด่งดังกำลังทำการวิจัยเพื่อแนวทางในการอนุรักษ์คือเป็นแหล่งแมง กะพรุนน้ำจืด พบเป็นประเทศที่ 5 ของโลก บริเวณแก่งยังมีผีเสื้อพันธุ์หายากหลายพันธุ์ อาทิ ไกเซอร์ดำ ผีเสือจันทรา เหลืองหนานแฟ้นฉาน ถุงทองป่าสูง จรกา หนอนกะหล่ำ เหลืองหนามใหญ่โคนปีกดำ สะพายฟ้า หางติ่งปารีส หางดาบ หางพลิ้ว แผนที่ หนอนจำปี ฯลฯ เหมาะกับคนที่ชอบธรรมชาติสุดๆ

การเดินทาง: จากจังหวัดเพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 (หล่มสัก-สระบุรี) ไปทาง อ.หล่มสัก เมื่อถึงสี่แยกบ้านนางั่ว (ประมาณ กม.ที่ 238) จะพบทางแยกอยู่ด้านซ้ายมือเป็นทางขึ้นสู่อำเภอเขาค้อ เป็นทางหลวงหมายเลข 2258 ผ่านทางแยกบ้านสะเดาะพงษ์ไปหนองแม่นา ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร จะพบที่ทำการกลุ่มฯ อยู่ใกล้กับหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงหน่วยหนองแม่นา

พิโน่ลาเต้ รีสอร์ท แอนด์ คาเฟ่ (Pino Latte Resort & Cafe)

หากคุณมองหาร้านกาแฟและที่พักบรรยากาศดีๆ ต้องที่ Pino Latte Resort & Café พีโน่ ลาเต้ รีสอร์ท เพราะตั้งอยู่บนภูเขาสูงเห็นวิววัดพระธาตุผาซ่อนแก้วอันสวยงาม
ร้านกาแฟสร้างแบบโมเดิรน์ดีไซน์ มีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมคล้ายกับตู่คอนแทนเนอร์ มีดาดฟ้าสำหรับขึ้นไปกินรับลม มีมุมจิบกาแฟด้านนอกหลายโซน มองเห็นวิวพระธาตุผาซ่อนแก้วที่อยู่เบื้องหน้า เป็นการจิบกาแฟที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว นอกจากจะถ่ายรูปสวยเเล้วเครื่องดื่มและเบอเกอรี่ยังมีรสชาติที่อร่อยอีกด้วย ในส่วนของที่พักซึ่งในปัจจุบันมีทั้งหมด 5 หลัง ตั้งเรียงรายก็มองไปเบื้องหน้าเห็นวิวภูเขาน้อยใหญ่เรียงรายกันสลับซับซ้อน

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 7.00 – 19.00 น.

การเดินทาง: คาเฟ่ตั้งอยู่ในบนถนนสาย 12 ซอยทางเข้าอยู่ข้างปั้มน้ำมัน PT จากนั้นเมื่อเข้าไปซอยนั้นแล้วต้องขับรถขึ้นเขาไปเรื่อยๆ จนเกือบสุดถนนก็จะเห็นร้านกาแฟตั้งอยู่โดดเด่นมาแต่ไกล มองไปอีกฝั่งจะเห็นวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วอยู่ไม่ไกล หรือตั้งgpsว่าไปวัดผาซ่อนเเก้วก็ได้เช่นกัน

น้ำตกศรีดิษฐ์

หากมาเขาค้อเเต่อยากได้ฟิวมาเที่ยวน้ำตกสวยๆ แบบฟินๆ ที่เขาค้อ ก็ต้องถึงนึก น้ำตกศรีดิษฐ์ จัดว่าเป็นน้ำตกหินที่สวยมากๆ ของเขาค้อ ที่สำคัญยังเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์อีกด้วย

น้ำตกศรีดิษฐ์ ตั้งอยู่ที่ บ้านร่มโพธิ์ร่มไทร ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นน้ำตกหินชั้นขนาดใหญ่ ที่มีเพียงแค่ชั้นเดียว สูง 30 เมตร กว้าง 50 เมตร แต่กลับมีน้ำตกตลอดทั้งปี เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของลำน้ำเข็กเลย ซึ่งเมื่อก่อนนั้น คอมมิวนิสต์เคยใช้เป็นที่อยู่อาศัย เรียกได้ว่าเป็นชุมชนขนาดย่อมๆ เพราะมีการพบเจอหลักฐานและสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ในบริเวณน้ำตก ไม่ว่าจะเป็น บ้านพัก ครกตำข้าว เป็นต้น

น้ำตกนี้จะเป็นลักษณะของน้ำที่ไหลผ่านจากหน้าผาตัด ลัดเลาะผ่านลงตามซอกหินชั้นต่างๆ และตกลงมาคล้ายม่านน้ำตกหลายม่านอย่างสวยงาม บริเวณด้านล่างของน้ำตก จะมีแอ่งขนาดใหญ่ ที่สามารถลงเล่นน้ำได้ แต่ในช่วงหน้าฝนต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะน้ำจะไหลเชี่ยว อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ น้ำตกศรีดิษฐ์ ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติสวยงาม ที่สามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของป่าไม้ ภูเขา และสายน้ำแบบใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุดๆ ไปเลย

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 7.00 – 17.00 น. (ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 20 บาท, เด็ก 10 บาท)

การเดินทาง: หากเดินทางมาที่ น้ำตกศรีดิษฐ์ นั้น สามารถใช้เส้นทางเดียวกับทางไปทุ่งแสลงหลวงได้เลย ถ้ามาจากเขาค้อ ถนนสาย 2196 ก็สามารถเลี้ยวเข้า ถนนสาย 2325 จะสังเกตได้จากป้ายบอกทางไปน้ำตก เพราะจะมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ เดินทางไม่ยากเลยค่ะ

ตั๊กม๊อ คอฟฟี่ & โรงเตี๊ยมสุดขอบฟ้า (Takmoh Coffee Khao Kho)

ขอบคุณภาพจาก FB: Takmoh Coffee Khao Kho & โรงเตี๊ยมสุดขอบฟ้า

มาเขาค้อทั้งทีจะพลาดกับร้านกาเเฟสุดชิคได้อย่างไร ตั๊กม๊อ คอฟฟี่ และ โรงเตี๊ยมสุดขอบฟ้า ร้านกาแฟและร้านอาหารสไตล์จีนกำลังภายในปรมาจารย์ตั๊กม้อ ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงท่ามกลางวิวภูเขา ร้านตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัด ผาซ่อนแก้วมองเห็นวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วอยู่ไม่ไกล ในบางวันช่วงฤดูฝนมีหมอกขาวลอยมาตลอดโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนสามารถเห็นหมอกได้เกือบทุกวัน ร้านจะแบ่งเป็น 2 โซน คือ

ขอบคุณภาพจาก FB: Takmoh Coffee Khao Kho & โรงเตี๊ยมสุดขอบฟ้า

• โซนร้านกาแฟ ชื่อ ตั๊กม๊อ คอฟฟี่ ตกแต่งสีแดงสไตล์จีน มีที่นั่งมมากมาย ทั้งแบบภายในอาคารมีหลังคา และลานระเบียงชมวิวด้านนอก เป็นที่นั่งแบบเก้าอี้ยกสูง เรียงรายเป็นแถวยาว มองเห็นวิวภูเขาและวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว สามารถนั่งจิบเครื่องดื่ม ทานอาหาร ดื่มด่ำกับวิวอันสวยงามที่อยู่ตรงหน้า
• โซนของร้านอาหาร ชื่อว่า โรงเตี๊ยมสุดขอบฟ้า ชื่อเหมือนร้านที่ภูทับเบิก เพราะเป็นสาขาเดียวกัน โซนร้านอาหารค่อนข้างกว้างกว่าร้านกาแฟมาก มีโต๊ะทานอาหารให้เลือกนั่งหลายมุม ทั้งภายในอาคารและภายนอกซึ่งวิวสวยมาก ส่วนพื้นที่ในโซนระเบียงด้านนอก เหมาะสำหรับนั่งในช่วงแดดอ่อนๆมาก

เวลาทำการเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 09:00 น. – 21:00 น.

การเดินทาง: จากตัวเมืองเพชรบูรณ์ ไปโรงเตี๊ยมสุดขอบฟ้า และ ตั๊กม้อคอฟฟี่เขาค้อ มีระยะทางประมาณ 65 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ร้านกาแฟตั้งอยู่บนจุดสูงที่สุดของเชิงเขาในบริเวณผาซ่อนแก้ว ต.แคมป์สน หรือตั้ง gps ว่าวัดผาซ่อนเเก้วก็ได้เช่นกันเพราะตัวร้านนั้นอยู่ไม่ไกลจากวัดผาซ่อนเเก้ว

เมื่อสถานที่ท่องเที่ยวพร้อม สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือที่พัก ที่จะช่วยเติมเต็มการพักผ่อนของคุณให้สมบูรณ์ ทำให้วันพักผ่อนของคุณกลายเป็นวันพักผ่อนสุดพิเศษ หากใครที่คิดจะพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ชมทะเลหมอกยามเช้า พร้อมดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ยังไม่รู้ว่า จะพักที่ไหนดี สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ 10 ที่พักเขาค้อสวยๆ สัมผัสทะเลหมอกได้ตั้งแต่ตื่นนอน