10 สถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียว ไปทั้งที ต้องไม่พลาดแวะเช็คอิน

สถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียว ไปทั้งที ต้องไม่พลาดแวะเช็คอิน

โตเกียว (Tokyo) เป็นเมืองหลวงและเป็นหนึ่งใน 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น มีทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศ ติดกับอ่าวโตเกียว ในภูมิภาคคันโต (Kanto) บนเกาะฮอนชู (Honshu) ซึ่งเป็นเกาะหลักของญี่ปุ่น มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “มหานครโตเกียว (Tokyo Metropolis)”

โตเกียวเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คน อาคารสไตล์โมเดิร์น สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง และสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตมากมาย ซึ่งรวบรวมความฟินสำหรับทั้งสายกิน สายช้อป และสายวัฒนธรรมไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งบอกได้เลยว่าห้ามพลาดต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง เราจึงได้รวบรวม 10 สถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียว ไปทั้งที ต้องไม่พลาดแวะเช็คอิน มาฝากเพื่อนๆ ว่าแต่จะมีที่ไหนบ้างนั้น ตามไปดูกันเลยยย

วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) หรือวัดอาซากุสะ (Asakusa Kannon Temple)

วัดอาซากุสะ Asakusa Temple

วัดเซนโซจิ หรือวัดอาซากุสะ หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า “วัดโคมแดง” ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ หนึ่งในที่ท่องเที่ยวในโตเกียวยอดฮิต จุดเด่นของวัดอาซากุสะคือ โคมแดง ขนาดมหึมาที่ตั้งอยู่บริเวณประตูคามินาริมง ทั้งสองข้างของโคมแดงจะเป็นรูปปั้นของ 2 เทวบาลรักษาประตู ได้แก่ ฟูจิน เทพเจ้าแห่งสายลม และ ไรจิน เทพเจ้าแห่งอสุนีบาต ที่ไม่ว่าใครต่อใครได้มาเยือนก็ต้องแวะถ่ายรูปกันทุกคน ไม่อย่างนั้นเหมือนมาไม่ถึงวัดอาซากุสะเลยทีเดียว

ภายในวัดอาซากุสะจะมีการสักการะเทพเจ้าคันนงโดยการรดน้ำ และตรงกลางวัดจะมีกระถางธูปขนาดใหญ่ ซึ่งมีความเชื่อว่า ถ้าผู้ใดได้รับควันธูปจากกระถางธูปนี้ จะโชคดีมีสุข นอกจากนี้ยังมีการทำบุญไหว้พระด้วยการโยนเหรียญลงในกล่อง และการเสี่ยงเซียมซี (แบบโบราณดั้งเดิม) ซึ่งได้รับความนิยมมาก

หลังจากไหว้พระเรียบร้อยแล้วก็สามารถออกมาเดินชอปปิ้งกันต่อได้ที่ ถนนนากามิเสะ ซึ่งตั้งอยู่ตรงด้านหน้าทางเข้าวัด เป็นถนนสายช้อปปิ้งเพราะมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านขายของฝากตั้งอยู่มากมายตลอดสองข้างทาง

การเดินทาง

  • นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza มาลงที่สถานี Asakusa (เดินประมาณ 1 นาที)
  • นั่งรถไฟใต้ดิน Toei สาย Asakusa มาลงที่สถานี Asakusa (เดินประมาณ 1 นาที)
  • นั่งรถไฟสาย Tobu SKYTREE มาลงที่สถานี Tobu Asakusa (เดินประมาณ 5 นาที)

พระราชวังโตเกียวอิมพีเรียล (Tokyo Imperial Palace)

พระราชวังโตเกียวอิมพีเรียล Tokyo Imperial Palace

พระราชวังโตเกียวอิมพีเรียล เดิมเคยเป็นสถานที่ตั้งของปราสาทเอโดะในสมัยก่อน ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่อยู่ประทับของราชวงศ์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟโตเกียว โดยรอบพระราชวังเป็นพื้นที่ของสวนขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยคูเมืองและกำแพงหิน

สะพานที่ใช้ข้ามไปยังพระราชวังอิมพีเรียลมีอยู่ 2 สะพาน คือสะพาน Nijubashiและสะพาน Meganebashi (สะพานแว่นตา) ซึ่งสะพานแว่นตาแห่งนี้เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะน้ำจะใสมากจนเห็นภาพสะท้อนของพระราชวังเลยทีเดียว

การเดินทาง

  • นั่งรถไฟใต้ดินสาย Marunouchi Line มาลงที่สถานี Tokyo ทางออก Marunouchi Central Exit แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที

ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)

ศาลเจ้าเมจิ Meiji Shrine

ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) เป็นศาลเจ้าที่คนญี่ปุ่นนิยมมาขอพรมากที่สุดในช่วงวันปีใหม่ ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่ดวงวิญญาณของสมเด็จพระจักพรรดิเมจิ และสมเด็จพระจักพรรดินีโชเก็ง ตั้งอยู่ในเขตชิบูย่า ใกล้กับสถานีฮาราจูกุ (Harajuku Station) ด้านหน้าบริเวณทางเข้าศาลเจ้ามี เสาโทริอิ ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ความพิเศษของศาลเจ้าเมจิ คือพื้นที่โดยรอบที่มีขนาดใหญ่ถึง 700,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยพรรณไม้กว่า 365 ชนิด และมีจำนวนต้นไม้ทั้งหมดกว่าหนึ่งแสนต้น แม้ว่าจะตั้งอยู่ในย่านธุรกิจของกรุงโตเกียว แต่มีป่าล้อมรอบขนาดใหญ่ จึงได้รับการขนานนามว่าเป็นป่าในเมือง

การเดินทาง

  • รถไฟ JR : นั่งรถไฟสาย Yamanote Line ลงที่สถานี JR Harajuku และเดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที
  • รถไฟ Subway : ลงที่สถานี Meiji-jingu mae และเดินต่อไปอีกประมาณ 7 นาที

โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower)

Tokyo Tower

โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower ) คือหอคอยสื่อสารขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 332.6 เมตร ได้ต้นแบบมาจากหอไอเฟลที่ปารีสประเทศฝรั่งเศส ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงโตเกียวและเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของโตเกียวไปแล้ว

ด้านในมีทั้ง Aquarium และพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง มีร้านขนม ร้านของฝากให้บริการ มีจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวอยู่ 2 จุด คือ Main Observatory ที่ความสูง 150 เมตร และ Special Observatory ที่ความสูง 250 เมตร เป็นความสูงที่สามารถมองเห็นเมืองโตเกียวที่ไกลสุดลูกลูกตา มองเห็นทั้งเกาะโอไดบะ สะพานสายรุ้ง โตเกียวสกายทรี และในวันที่ฟ้าใสก็ยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วย

การเดินทาง

  • นั่งรถไฟใต้ดิน สาย Oedo Line มาลงที่สถานี Akabanebashiทางออก Akabanebashi subway station แล้วเดินต่ออีกประมาณ 7 นาที

โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)

Tokyo Skytree

โตเกียวสกายทรี เป็นหอคอยกระจายสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุที่สูงเป็นอันดับหนึ่งของโลก ชั้นบนหอคอยโตเกียวสกายทรี มีจุดชมวิว 2 ระดับคือ Tempo Deck ที่มีความสูง 350 เมตร และ Tembo Galleria ที่ความสูง 445 เมตร เดินไปอีดนิดจะเป็น SORAKARA Point ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดบนชั้น 450 เมตร สามารถสัมผัสประสบการณ์เหมือนลอยกลางอากาศ ความกลมของโลก และแสงมหัศจรรย์ที่ลอดผ่านแก้ว เป็นจุดชมวิวเมืองโตเกียวที่สวยที่สุดอีกจุดหนึ่ง เนื่องจากสามารถชมวิวได้รอบทิศ 360 องศา

การเดินทาง

  • นั่งรถไฟใต้ดิน Toei สาย Asakusa มาลงที่สถานี Oshiage แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที หรือนั่งรถไฟสาย Tobu Skytree มาลงที่สถานี Tokyo Skytreeแล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที

โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)

โตเกียวดิสนีย์แลนด์ ( Tokyo Disneyland) เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ ที่สร้างขึ้นโดยบริษัทผลิตภาพยนตร์การ์ตูนวอลท์ดิสนีย์ ประกอบด้วยโซนธีมหลัก 7 ธีม ได้แก่ World Bazaar, Fantasyland, Tomorrow land, Toontown, Critter Country, Western land และ Adventure land แต่ละโซนจะให้ความรู้สึกเหมือนหลุดมาจากในการ์ตูนและจินตนาการของดิสนีย์เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีแลนด์มาร์กของดิสนีย์แลนด์ทั่วโลกอย่าง ปราสาทซินเดอร์เรลล่าส์ ที่ตั้งตระหง่านอยู่หน้าทางเข้าหลักให้แฟน ๆ ได้ถ่ายรูปกัน ซึ่งปราสาทนี้จะมีเฉพาะ ดิสนีย์แลนด์ เท่านั้น

ภายในสวนสนุกจะมีเครื่องเล่นมากมายให้เราเล่นอย่างสนุกสนาน ส่วนไฮไลท์ของดิสนีย์แลนด์ที่ไม่ควรพลาดคือ ขบวนพาเหรดของเหล่าตัวการ์ตูนและบรรดาเจ้าหญิงเจ้าชายจากโลกเทพนิยาย ให้เราได้ถ่ายรูปกันรัวๆ และในแต่ละฤดูกาลจะมีการตกแต่งประดับไฟตามฤดูกาล ยิ่งช่วงเทศกาลสำคัญๆอย่างคริสต์มาส บอกเลยว่าห้ามพลาดช่วงกลางคืนที่จะมีการประดับประดาปราสาทและทั่วบริเวณอย่างงดงามมากเป็นพิเศษอีกด้วย

ตั๋วเข้าสวนสนุก :

  • 1-Day Passport
    ตั๋วเข้าสวนสนุกแบบ 1 วัน ต้องเลือกว่าจะเข้าระหว่าง Tokyo Disneyland หรือ Tokyo DisneySea อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยสามารถเข้าได้ตั้งแต่เวลาสวนสนุกเปิดจนถึงสวนสนุกปิด (นักท่องเที่ยวจะนิยมใช้ตั๋วประเภทนี้)
  • Senior Passport
    ตั๋วเข้าสวนสนุกสำหรับผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) ต้องเลือกว่าจะเข้า Tokyo Disneyland หรือ Tokyo DisneySea อย่างใดอย่างหนึ่งเช่นกัน
  • Starlight Passport
    ตั๋วเข้าสวนสนุกหลังบ่าย 3 โมง ในช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์และวันหยุดนขัตฤกษ์
  • After 6 Passport
    ตั๋วเข้าสวนสนุกหลัง 6 โมงเย็น ในช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์และวันหยุดนขัตฤกษ์
  • Multi-Day Passport
    ตั๋วประเภทนี้จะเป็นตั๋วใช้หลายวันติดต่อกัน สามารถเข้าสวนสนุกได้ทั้ง 2 แห่ง เหมาะสมหรับคนที่มีเป้าหมายเที่ยวทั้ง Tokyo Disneyland และ Tokyo DisneySea ซึ่งมีให้เลือกแบบ 2 วัน / 3 วัน / 4 วัน

เวลาทำการ : 8:00 – 22:00 น. (วันเวลาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละช่วง สามารถตรวจสอบได้ที่ Calendar)

การเดินทาง

  • นั่งรถไฟ JR สาย Keiyo line มาลงที่สถานี JR Maihama แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที

โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo Disneysea)

โตเกียวดิสนีย์ซี เป็นโครงการที่เกิดขึ้นในส่วนต่อขยายของโตเกียวดิสนีย์แลนด์รีสอร์ต (Tokyo Disney Resort) ตั้งอยู่ในเขตชิบะ ประเทศญี่ปุ่น พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นน้ำ ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากเทพนิยายและตำนานแห่งท้องทะเล ที่ผสมผสานทั้งความโรแมนติกและความตื่นเต้นท้าทายให้นักผจญภัยทั้งหลายได้เข้ามาลองค้นหา ซึ่งจะเน้นไปที่ความตื่นเต้นผจญภัยที่มีไม่รู้จบ เช่น เมืองเวนีส ลำธารน้ำ ทะเล เรือไททานิก ถ้ำใต้น้ำในปล่องภูเขาไฟ เมืองในป่าดิบชื้นแถบอเมริกากลาง เงือกและเมืองบาดาล เป็นต้น

โตเกียวดิสนีย์ซี มีโซนหลักๆ ที่น่าสนใจ 7 โซน ได้แก่

  • เมืองลับแลสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ (Lost river delta)
  • ชายทะเลฝั่งอาหรับ (Arabian Coast)
  • ทะเลสาบนางเงือก (Mermaid Lagoon)
  • เกาะลึกลับ (Mysterious Island)
  • ริมน้ำฝั่งอเมริกา (American Waterfront)
  • เมืองเรือแห่งการค้นพบ (Port Discovery)
  • ท่าเรือเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Harbor)

มีเครื่องเล่นให้เลือกเล่นมากมาย และเครื่องเล่นที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ได้แก่ Journey to the center of the Earth, Tower of Terror, Temple of the Crystal Skull, และ Raging Spirits อีกทั้งยังมีร้านอาหารที่เสิร์ฟทั้งของคาวของหวานที่จัดแต่งจานสไตล์ดิสนีย์ที่น่ารักน่ากินอีกด้วย

ตั๋วเข้าสวนสนุก :

  • 1-Day Passport
    ตั๋วเข้าสวนสนุกแบบ 1 วัน ต้องเลือกว่าจะเข้าระหว่าง Tokyo Disneyland หรือ Tokyo DisneySea อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยสามารถเข้าได้ตั้งแต่เวลาสวนสนุกเปิดจนถึงสวนสนุกปิด (นักท่องเที่ยวจะนิยมใช้ตั๋วประเภทนี้)
  • Senior Passport
    ตั๋วเข้าสวนสนุกสำหรับผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) ต้องเลือกว่าจะเข้า Tokyo Disneyland หรือ Tokyo DisneySea อย่างใดอย่างหนึ่งเช่นกัน
  • Starlight Passport
    ตั๋วเข้าสวนสนุกหลังบ่าย 3 โมง ในช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์และวันหยุดนขัตฤกษ์
  • After 6 Passport
    ตั๋วเข้าสวนสนุกหลัง 6 โมงเย็น ในช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์และวันหยุดนขัตฤกษ์
  • Multi-Day Passport
    ตั๋วประเภทนี้จะเป็นตั๋วใช้หลายวันติดต่อกัน สามารถเข้าสวนสนุกได้ทั้ง 2 แห่ง เหมาะสมหรับคนที่มีเป้าหมายเที่ยวทั้ง Tokyo Disneyland และ Tokyo DisneySea ซึ่งมีให้เลือกแบบ 2 วัน / 3 วัน / 4 วัน

เวลาทำการ : 8:00 – 22:00 น. (วันเวลาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละช่วง สามารถตรวจสอบได้ที่ Calendar)

การเดินทาง

  • นั่งรถไฟ JR สาย Keiyo line มาลงที่สถานี JR Maihamaแล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที

ซานริโอ พูโรแลนด์ (Sanrio Puroland)

sanrio puroland theme park

ซานริโอ พูโรแลนด์ (Sanrio Puroland) เป็น Theme Park ในร่มที่น่ารักที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในเขตทามะ (Tama) กรุงโตเกียว ดินแดนที่เต็มไปด้วยความมุ้งมิ้ง บ๊องแบ๊ว พร้อมจะเปลี่ยนโลกของทุกคนที่ไปเยือนให้สดใส และกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ภายในสวนสนุกจะมีการแบ่งเป็นโซนๆ ตามตัวการ์ตูนของ ซานริโอ เช่น Hello Kitty, Pompompurin, Cinnamonroll, My Memody, Little Twin Stars, Gudetama และอีกมากมาย ซึ่งแต่ละโซนก็จะมีทั้งเครื่องเล่น มุมถ่ายรูป ร้านขายของที่ระลึก และ ร้านอาหาร คาเฟ่น่ารักๆ ให้เพื่อนๆ ได้นั่งพักผ่อนกัน สำหรับไฮไลท์ของ ซานริโอ พูโรแลนด์ (Sanrio Puroland) คือ การแสดงโชว์จากเหล่าตัวการ์ตูน และอีกหนึ่งโซนที่เด็กๆ ผู้หญิงชอบเป็นพิเศษนั่นก็คือ “Lady Kitty House” ซึ่งจะจำลองบ้านของคิตตี้ ไว้ที่นี้
บอกเลยว่าหากใครเป็นสาวก ซานริโอ (Sanrio) ต้องห้ามพลาดสวนสนุกแห่งนี้ คุณจะได้รับความสุข ความฟิน เต็มอิ่มแน่นอน และที่สำคัญเตรียมเงินไปเยอะๆ เพราะที่นี้มีสินค้าจากทุกคาแรคเตอร์ของซานริโอ ให้เลือกเยอะมากกกกก

การเดินทาง

  • นั่งรถไฟสาย Keio Line มาลงที่สถานี Tama Center แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที

ตลาดปลาสึกิจิ(Tsukiji Fish Market)

Tsukiji Fish Market

ตลาดปลาสึกิจิ(Tsukiji Fish Market) เป็นตลาดค้าส่งปลา,ผักและผลไม้ขนาดใหญ่ใจกลางกรุงโตเกียว ในบรรดาตลาดค้าส่งที่กระจายอยู่ในโตเกียวนั้น ตลาดปลาแห่งนี้นับเป็นที่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ตลาดซึกิจินั้นเป็นเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือส่วน “ตลาดนอก” ซึ่งมีร้านค้าปลีกและร้านอาหารตั้งเรียงรายเป็นจำนวนมาก และส่วน “ตลาดใน” ซึ่งเป็นบริเวณที่ร้านค้าส่งใช้เจรจาธุรกิจ ซื้อขายวัตถุดิบทำอาหาร และเป็นจุดที่มีการประมูลปลาทูน่าที่มีชื่อเสียง แต่ปัจจุบัน “ตลาดใน” ได้ย้ายไปยังตลาดปลาโทโยซุ (Toyosu Fish Market) ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2018 แล้ว

การเดินทาง:

  • รถไฟใต้ดิน: เดิน 3 นาที จาก Tsukiji Shijo Station [Oedo Subway Line]
  • รถไฟใต้ดิน: เดิน 5 นาที จาก Tsukiji Station [Hibiya Subway Line]
  • รถไฟ: เดิน 15 นาที จาก Shimbashi JR Station

ห้าแยกชิบูย่า (Shibuya Crossing)

Shibuya Crossing ที่ท่องเที่ยวในโตเกียว

ห้าแยกชิบูย่า (Shibuya Crossing) เป็นแลนมาร์คสุดฮิตของนักท่องเที่ยวและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียวที่ต้องไม่พลาดมาเช็คอิน ที่นี่เป็นห้าแยกขนาดใหญ่ที่มีคนข้ามถนนพร้อมๆกันเป็นพันๆคนเลยทีเดียว ขณะที่สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อใด ผู้คนจะพร้อมใจกันเดินข้ามสี่แยกนี้ โดยมีจำนวนมากกว่า 3,000 คนต่อครั้ง เป็นภาพที่หาชมได้ยาก แล้วอย่ามัวแต่อึ้งจนลืมถ่ายภาพตัวเองโดยมีฉากหลังเป็นแยกชิบูย่าด้วยนะ
และอย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกับ “รูปปั้นฮาจิโกะ” รูปปั้นสุนัขยอดกตัญญู สุนัขสายพันธุ์อะกิตะ ที่สร้างเอาไว้เพื่อระลึกถึงความจงรักภักดีอันน่าทึ่งจากการที่มันเฝ้ารอเจ้านายของมันเป็นเวลาหลายปี แม้ว่าเจ้านายของมันจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม

การเดินทาง

  • นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote Line, Saikyo Line, หรือ Shonan Shinjuku Line มาลงที่สถานี Shibuya ทางออก Hachiko Exit แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที

นอกจากที่เที่ยวในโตเกียวที่เป็นแลนมาร์คยอดฮิตแล้ว ยังมีที่เที่ยวธรรมชาติในโตเกียวให้เพื่อนๆสามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติอันสวยงามได้ และหากเพื่อนๆเที่ยวในโตเกียวจนทั่วแล้ว อยากไปเที่ยวที่อื่นบ้างแต่ไม่อยากไปไกลมาก ลองแวะไปชมบทความของเราเพิ่มเติมได้นะคะ 7 ที่เที่ยวใกล้โตเกียว ที่เที่ยวสุดฮิตของนักเดินทาง เพื่อเป็นไอเดียในการทำทริปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งต่อไปกันเลย

และหากเพื่อนๆกำลังมองหาที่พักในโตเกียวอยู่หล่ะก็ เราขอแนะนำ ที่พักในโตเกียว ใกล้สถานีรถไฟ ไว้เป็นตัวเลือกของเพื่อนๆ ในการตัดสินใจค่ะ

 

บอกให้เพื่อนของคุณทราบ