ประเทศญี่ปุ่น ดินแดนอาทิตย์อุทัย ขึ้นชื่อเรื่องวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ อาหารอร่อย ผู้คนมีมารยาท และเทคโนโลยีล้ำสมัย หนึ่งในเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกคือ “อนิเมะ” การ์ตูนญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าติดตาม ตัวละครที่โดดเด่น และฉากที่สวยงาม วันนี้แบกเมียเที่ยวจะพาเพื่อนๆไปตะลุยโลกอนิเมะและมังงะกันที่ ย่านอากิฮาบาระ (Akihabara) แหล่งรวมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอนิเมะที่ใหญ่ที่สุดในโลก บอกเลยว่าแฟนอนิเมะห้ามพลาด!
ย่านอากิฮาบาระ (Akihabara) ประตูสู่โลกอนิเมะ ที่เหล่าโอตาคุห้ามพลาด
อากิฮาบาระ (Akihabara) ขึ้นชื่อในฐานะแหล่งรวมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เต็มไปด้วยร้านค้ามากมายที่จำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายรูป อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน
นอกจากนี้ อากิฮาบาระยังเป็นสวรรค์ของเหล่าโอตาคุ เต็มไปด้วยร้านขายอนิเมะ มังงะ ฟิกเกอร์ เกม และสินค้าสะสมมากมาย แฟนๆ ของอนิเมะและมังงะชื่อดังสามารถหาซื้อสินค้าลิขสิทธิ์แท้ รวมไปถึงสินค้าหายากได้ที่นี่
อากิฮาบาระ ประวัติ
ย่านอากิฮาบาระ ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะ “Electric Town” หรือ “ย่านแห่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์” เต็มไปด้วยร้านค้ามากมายที่จำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ไอที อนิเมะ มังงะ ฟิกเกอร์ และสินค้าสะสม แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าย่านนี้นั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนานและผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายยุคสมัย
อากิฮาบาระ มีชื่อมาจาก “วัดอากิฮะ” ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1625 เพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้า “อากิฮะ” เทพเจ้าแห่งไฟ ในอดีต ย่านนี้เป็นเพียงพื้นที่เกษตรกรรม ต่อมาในปี 1869 รัฐบาลมีคำสั่งให้ย้ายร้านค้าขายเครื่องใช้ไฟฟ้ามาอยู่ที่อากิฮาบาระ เนื่องจากเป็นพื้นที่โล่งกว้าง ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อากิฮาบาระ กลายเป็นตลาดมืด เต็มไปด้วยร้านค้าแผงลอยจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ต่อมาในปี ค.ศ. 1950 เริ่มมีร้านค้าขนาดใหญ่มาเปิดในย่านนี้ อากิฮาบาระ จึงพัฒนาอย่างรวดเร็ว กลายเป็น “ศูนย์กลางการค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
ปัจจุบัน อากิฮาบาระ กลายเป็น “แหล่งรวมวัฒนธรรมป๊อป” ของญี่ปุ่น เต็มไปด้วยร้านขายอนิเมะ มังงะ ฟิกเกอร์ เกม และสินค้าของเล่นของสะสม ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก จนกลายเป็น “จุดหมายปลายทาง” ของนักช้อป สายเทคโนโลยี และเหล่าโอตาคุจากทั่วทุกมุมโลก
อากิฮาบาระ อยู่ที่ไหน
อากิฮาบาระ ตั้งอยู่ในเขตชิโยดะ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ย่านอากิฮาบาระ (Akihabara) มีอะไรบ้าง
อากิฮาบาระ (Akihabara) แหล่งรวมสินค้าหลากหลายประเภท เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมป๊อปญี่ปุ่น เทคโนโลยี และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นสิ่งที่สามารถพบได้ในอากิฮาบาระ คือ ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านขายเกม ร้านขายสินค้าอนิเมะและมังงะ รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่น่ารักๆ
อากิฮาบาระ ร้านของเล่น
Yodobashi Camera
- ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีสินค้าให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายรูป นาฬิกา เครื่องสำอางค์ กระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ของเล่น กันพลา โมเดล ของใช้ในครัวและอื่นๆ อีกมากมายมหาศาล แบบเรียกได้ว่ามาที่เดียวครบ โดยเฉพาะชั้น 6 ที่เป็นแหล่งรวมของเล่น ฟิกเกอร์ และตู้กาชาปองที่ตั้งอยู่เต็มไปหมด
Bic Camera
- บิ้กคาเมร่า แน่นอนว่า ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ขายกล้อง แต่ที่นี้ไม่ได้มีแค่ กล้อง สินค้าที่ขายใน Bic Camera มีทั้ง โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ของเล่น โมเดล เครื่องสำอาง ของใช้ (คล้ายกับ Yodobashi แต่ขนาดเล็กกว่า)
Sofmap
- เป็นร้านในเครือเดียวกับ BIC Camera เน้นไปที่โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ สินค้าเกี่ยวกับอะนิเมะ มังงะ และเกม
Tamashii Nation Store
- ร้านขายฟิกเกอร์และหุ่นยนต์ คุณภาพสูงที่หลากหลายแบบ
Animate
- เป็นร้านสาขาที่ขายสินค้าเกี่ยวกับอนิเมะที่ใหญ่ที่สุดร้านหนึ่งในญี่ปุ่น และยังเป็นที่เดียวที่ขายสินค้าอนิเมะยอดนิยมของญี่ปุ่น เช่น สินค้าเกี่ยวกับอนิเมะ การ์ตูน การบริการเกี่ยวกับเกม หนังสือ E-book รวมไปถึงสินค้าคอสเพลย์
Mandarake
- ร้านขายฟิกเกอร์มือสองที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีฟิกเกอร์หลากหลายประเภท ทั้งอนิเมะ มังงะ เกม และภาพยนตร์
Jungle
- ร้านขายฟิกเกอร์มือสอง มีสินค้าหลากหลายประเภท
Volk
- ร้านขายฟิกเกอร์ โมเดล และสินค้าสำหรับงานอดิเรก
Liberty Anime
- ร้านขายฟิกเกอร์ มีสินค้าหลากหลายประเภท บ้างช่วงจะมีถุงโชคดีจำหน่ายด้วย
ร้านดองกี้โฮเต้ (Don Quijote Akihabara)
ร้านดองกี้โฮเต้ สาขาอากิฮาบาระ (Don Quijote Akihabara) ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ JR อากิฮาบาระ ประมาณเดิน 3 นาที มีทั้งหมด 8 ชั้น ตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 5 เป็นร้านดองกี้โฮเต้ ส่วนชั้น 5 เป็นเมดคาเฟ่ ชั้น 6 และ 7 เป็นเกมเซ็นเตอร์ และชั้น 8 จะเป็น AKB เธียเตอร์ ซึ่งสินค้าในร้านดองกี้โฮเต้มีทั้งอาหาร ขนม ยา เครื่องสำอาง ของใช้จิปาถะ แฟชั่น ของเล่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์สำหรับคอสเพลย์ และสินค้าแบรนด์ ด้านหน้าร้านดองกี้โฮเต้ จะมีร้านขายฟิกเกอร์ราคาถูก ร้านขายเนื้อเสียบไม้ ร้านขายเครปตั้งอยู่ด้วย
ตะลุยเกมเซ็นเตอร์ สุดมันส์
อากิฮาบาระ เป็นแหล่งรวมเกมเซ็นเตอร์หลากหลายค่าย ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก เรียกได้ว่ามีแทบทุกแบรนด์ และมีเกมให้เลือกเล่นมากมาย เช่น ปาจิงโกะ เกมตู้ เกมอาร์เคด ตู้คีบตุ๊กตา เกมเต้น เกม VR หรือจะเป็นตู้กาชาปอง ที่ตั้งเรียงรายตามริมถนน ถ้าหลงเดินเข้าไปแล้วหล่ะก็ กระเป๋าฟีบแน่นอน โดยเฉพาะตู้คีบตุ๊กตา ที่มีให้คีบทั้งตุ๊กตา ฟิกเกอร์ ของเล่น ยันของกิน ก็มีให้คีบกัน และตู้คีบก็มีหลากหลายแบบ ทั้ง สามขา เขี่ย ห่วง ตัดเชือก มาท้าทายความสามารถเหล่าเกมเมอร์ เกมเซ็นเตอร์ยอดนิยมได้แก่ SEGA, Round 1, Taito Station, GiGO, Game Panic
ตู้คีบตุ๊กตา (Crane Game)
ตู้คีบตุ๊กตา หรือ เครนเกม (Crane Game) หรือ ยูเอฟโอแคชเชอร์ (UFO Katcher) เป็นที่นิยมมากในญี่ปุ่น จึงมีให้เห็นอยู่ทุกร้านเกมเซ็นเตอร์ ปัจจุบันมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อช่วยให้การเล่นเกมเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
วิธีเล่นก็เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน แค่บังคับปุ่มควบคุมเพื่อเลื่อนคีมเหล็กให้จับตุ๊กตาที่ต้องการ และพยายามคีบตุ๊กตาให้ติดกับคีมเหล็กให้ได้เท่านั้น ส่วนประเภทของในตู้ ก็มีเยอะมากเรียกได้ว่า ตั้งแต่สากกระเบือ ยันเรือรบก็ว่าได้ ของบางอย่างเพื่อนๆ อาจจะคาดไม่ถึงกันเลยว่าจะมี เช่น ตุ๊กตา ฟิกเกอร์ พวงกุญแจ ของที่ระลึก ของใช้ ขนมของกิน
ร้านเมดคาเฟ่
ร้านเมดคาเฟ่ เป็นร้านคาเฟ่ที่มีพนักงานสาวน้อยน่ารักในเครื่องแบบสาวใช้ มาคอยต้อนรับ และคอยบริการเราอย่างดีประดุจเจ้านาย ร้านเมดคาเฟ่ มีอยู่มากมายในอากิฮาบาระ มีหลากหลายสไตล์ตามความชอบแล้วแต่เพื่อนๆจะชอบแบบไหน โดยร้านที่เป็นที่นิยม เช่น ร้าน แอทโฮมคาเฟ่ (@home cafe), ร้าน เคียว เมด คาเฟ่ (CURE MAID CAFE’), ร้านสแควร์ อีนิกซ์ คาเฟ่ โตเกียว (SQUARE ENIX CAFE TOKYO) เป็นต้น
อากิฮาบาระ เปิดกี่โมง
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันประมาณ 10.00 – 22.00 น แล้วแต่ร้านค้า ถ้าเป็นร้านขายฟิกเกอร์ ส่วนใหญ่จะเปิด ประมาณ 11.00 น. หรือ 12.00 น.
อากิฮาบาระ ไปยังไง
สามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงตามสถานีด้านล่าง แล้วเดินต่อมายัง Akihabara ได้เลย
- เดินจาก Ueno Station ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
- เดินจาก Akihabara Station ใช้เวลาประมาณ 3 นาที
- เดินจาก Suehirocho Station ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
อากิฮาบาระ ที่เที่ยวใกล้เคียง
ชมนิทรรศการ Anime
ในย่านอากิฮาบาระ มักมีจัดนิทรรศการเกี่ยวกับอนิเมะ อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งนิทรรศการก็จะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำกัน โดยสถานที่จัดงานจะมีที่ตึก Bellesalle Akihabara (ชั้น 1 และชั้นใต้ดิน) และ Akihabara UDX หากเพื่อนๆ ไปเที่ยวอากิฮาบาระ แล้วก็อย่าลืมแวะไปชมนิทรรศการ กันได้ บางทีอาจจะได้ของแรร์ติดไม้ติดมือกลับบ้านก็เป็นได้
- นิทรรศการงานแสดงฟิกเกอร์ของ TAMASHII NATIONS ภายในงานมีการจัดแสดงฟิกเกอร์ ที่วางขายในปัจจุบัน และที่กำลังจะวางขายในปีหน้า
- นิทรรศการ Saint Seiya จัดแสดงฟิกเกอร์ จากเรื่องเซนเซย่าให้ได้ชมกัน
ศาลเจ้า Kanda Myojin
ศาลเจ้าคันดะเมียวจิน (Kanda Myojin) เป็นศาลเจ้าชินโตที่ตั้งอยู่ในย่านคันดะของโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ไม่ไกลจากย่านอาคิฮาบาระ ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่สถิตของเทพเจ้า 3 องค์ ได้แก่ เทพเจ้าไดโกกุเทน (เทพเจ้าแห่งความรัก), เทพเจ้าเอบิสุ (เทพเจ้าแห่งการค้าขายและธุรกิจ) และเทพเจ้าไทระโนะมาซาคาโดะ (ผู้ต่อต้านรัฐบาลเฮอัน)
เมื่อเราเดินผ่านประตูโทริอิและขึ้นไปบนเนินเขา จะพบกับประตูซุยชินมงของศาลเจ้าคันดะเมียวจิน ประตูนี้สูง 2 ชั้น และทำจากไม้ซีดาร์ทั้งหมด มีรูปปั้นเทพแห่งธุรกิจ Daikoku สลักไว้ที่ประตู
ผู้คนมักเดินทางมาสักการะขอพรเรื่องความรัก เนื่องจากที่นี่เป็นที่สถิตของเทพเจ้าแห่งความรักด้วย ว่ากันว่าใครที่อยากมีความรักที่ดีมาขอพรที่นี่แล้วจะสมหวังในเรื่องความรัก และคนที่ประกอบอาชีพค้าขายก็แนะนำเช่นกัน เชื่อว่าถ้าขอพรแล้วจะช่วยให้ค้าขายร่ำรวยและเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป นอกจากนี้ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นที่นิยมในหมู่นักพัฒนาเกี่ยวเทคโนโลยี และธุรกิจ โดยที่นี่มีการขายเครื่องรางของขลังเกี่ยวกับธุรกิจด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย คนที่ทำงานด้านสายไอทีห้ามพลาด
วิธีการเดินทาง: ใช้เวลาเดิน 7 นาที จากสถานีอาคิฮาบาระ
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 9:00 น.-16:00 น.
สถานีมันเซบาชิ (Manseibashi)
สถานี Manseibashi ปิดให้บริการในปี 1943 เป็นสถานีรถไฟใต้ดินที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว และเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมยุคโชวะ สถานีรถไฟแห่งนี้อยู่ในสายการเดินรถไฟ Ginza ปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ ตัวสถานีบางส่วนถูกดัดแปลงให้เป็นห้องอาหารและชอปปิ้งคอมเพล็กซ์ อีกทั้งยังมีร้านกาแฟที่สามารถมองเห็นรถไฟวิ่งผ่านไปมาได้อีกด้วย
“mAAch ecute” เป็นโครงการศูนย์การค้าขนาดกระทัดรัดในสถานี Manseibashi ตั้งอยู่ริมแม่น้ำคันดะ (Kanda River) สถาปัตย์ฯ ด้านนอกสร้างด้วยอิฐแดงให้ดูเก่า คลาสสิคๆ เมื่อเข้ามาข้างใน จะตกแต่งแนว Loft ดิบๆ ภายในประกอบด้วยร้านค้ามากมายให้เดินช็อป ส่วนใหญ่เป็นแนวสินค้าแฮนด์เมด เสื้อผ้า และเครื่องประดับ นอกจากนี้ mAAch ยังมีร้านอาหารและบาร์ให้เลือกมากมาย ร้านเบียร์ ร้านเหล้าสาเกแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมก็มีให้นั่งชิลๆ
วิธีการเดินทาง: ใช้เวลาเดิน 6 นาที จากสถานีอาคิฮาบาระ
เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 11.00 – 21.00 น.
ย่านอากิฮาบาระ เป็นเพียงหนึ่งในย่านช้อปปิ้งยอดนิยมในเมืองโตเกียวเท่านั้น ในโตเกียวยังมีแหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตของนักท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง หากเพื่อนๆ อยากรู้ว่ามีที่ไหนบ้าง สามารถไปดูเพิ่มเติมได้ที่ ตะลุย 10 แหล่งช้อปปิ้งโตเกียว สวรรค์ของนักช้อป รับรองว่าช้อปเพลินช้อปกระจุยแน่นอน