รีวิวที่เที่ยวอัมพวา ที่พัก ร้านอาหาร ทริป 2 วัน 1 คืน

อัมพวาเป็นอีกที่นึง ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ในบทความนี้เราจะพาไปดูที่เที่ยวอัมพวา ที่เราได้ไปมา รวมถึงที่พักและร้านอาหาร ไปกับทริป 2 วัน 1 คืนของเราสไตล์แบกเมียเที่ยว

ที่เที่ยวอัมพวา ที่เราได้ไปมา

ในทริปนี้ทางเราจัดเป็นทริปชิวๆ ง่ายๆ โดยจุดประสงค์หลักของทริปนี้คือการไปสักการะขอพรท้าวเวสสุวรรณที่วัดจุฬามณี โดยเราได้เลือกพักที่ชูชัยบุรีศรีอัมพวาเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ซึ่งระหว่างทริปเราก็ได้แวะสถานที่ที่น่าสนใจที่อื่นๆด้วย เช่นวัดเพชรสมุทรวรวิหาร และตลาดร่มหุบหรือตลาดแม่กลอง ว่าแล้วก็ไปดูรายละเอียดแต่ละที่กัน

อัมพวาที่พักสวยๆ – ชูชัยบุรีศรีอัมพวา

ชูชัยบุรีศรีอัมพวา

ชูชัยบุรีศรีอัมพวาเป็นที่พักที่ตั้งอยู่ตรงปากทางเข้าอัมพวา ซึ่งพอเลี้ยวซ้ายเข้าอัมพวามา ตรงไปอีกซักราวๆ 200 – 300 เมตรตัวที่พักจะอยู่ขวามือในซอย โดยเราสามารถขับรถเข้าไปจอดที่ลาดจอดด้านในแล้วนั่งรถกอล์ฟ เข้าไปเช็คอินที่หน้าเคาเตอร์ได้เลย

ที่เที่ยวอัมพวา

ชูชัยบุรีศรีอัมพวา รีวิว

ตัวที่พักอยู่ใกล้ตลาดน้ำอัมพวามาก สามารถเดินจากที่พักไปได้ โดยระยะทางเพียง 400 เมตร

ตอนที่เราจองที่พักที่นี้นั้น เราได้ Package ที่มีบริการเรือรับ-ส่งจากที่พักไปวัดจุฬามณีด้วย ทำให้สะดวกสบายมากทีเดียว

โดยในชูชัยบุรีนั้นจะมีร้านกาแฟ และร้านอาหารในตัวซึ่งมีชื่อเรียกว่า อัมพวาศรีคาเฟ่

อัมพวาศรีคาเฟ่ รีวิว

อัมพวาศรีคาเฟ่

อัมพวาศรีคาเฟ่ เป็นคาเฟ่ที่สวย เริ่ด อลังการ ตั้งอยู่ติดริมน้ำ ด้านหลังชูชัยบุรีศรีอัมพวา ใกล้กับตลาดน้ำอัมพวาประมาณ 1 กิโลเมตร โดยเป็นการตกแต่งในสไตล์ที่เรียกว่า Siam Venaissance (Siam + Venic + Renaissance) บอกเลยว่าสายถ่ายรูปต้องชอบ เพราะไม่ว่ามุมไหนก็สวยอลังการไปหมด ไม่ว่าจะเป็นมุมนั่งชิลริมคลองชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่สัญจรไปมา, โถงทางเดินเข้าร้านสุดอลังการ, รูปปั้นโรมัน, บันไดวนสวยสะดุดตา รับรองว่าถ่ายมุมไหนก็สวยปังทุกรูปแน่นอน

สำหรับมุมที่นั่งของร้าน ก็มีให้เลือกทั้งด้านในคาเฟ่ ซึ่งเป็นห้องแอร์เย็นๆ เปิดโล่งกรุกระจกใส เพื่อให้มองเห็นวิวสวยๆของคลองอัมพวาเต็มตา จากด้านในร้านได้ และด้านนอกแบบเอาท์ดอร์ริมน้ำชมวิถีชีวิตของชาวบ้านอัมพวาที่พายเรือสัญจรไปมา

อัมพวาศรีคาเฟ่

อัมพวาศรีคาเฟ่

อัมพวาศรีคาเฟ่

อัมพวาศรีคาเฟ่

นอกจากมุมถ่ายรูปที่เด็ดแล้ว อาหารที่นี่ก็เด็ดไม่แพ้กัน ทั้งขนมของหวาน เครื่องดื่มก็อร่อยสุดๆ นอกจากนี้คนรักการจิบชายามบ่าย ก็มีเซทชาสไตล์ผู้ดีอังกฤษ ให้เลือกถึง 4 รสชาติด้วยกัน (ENGLISH BREAKFAST / COMOMIMIE / PEPERMINT / EARLGRAY) ใครมาเป็นต้องหลงรักแน่นอนค่ะ รับรองว่าแค่มานั่งปล่อยใจจิบเครื่องดื่มทานขนมอร่อยริมน้ำแบบนี้ก็ทำให้ช่วยรีเฟรชร่างกายและจิตใจที่เหนื่อยล้าจากการทำงานให้กลับมาสดใส ใครมาเป็นต้องหลงรักแน่นอนค่ะ

อัมพวาศรีคาเฟ่

อัมพวาศรีคาเฟ่

อัมพวาศรีคาเฟ่

อัมพวาศรีคาเฟ่

อัมพวาศรีคาเฟ่

อัมพวาศรีคาเฟ่

อัมพวาศรีคาเฟ่

ขอบคุณภาพจาก : เพจ Chuchaiburi – ชูชัยบุรี และ อัมพวาศรี คาเฟ่ : Amphawa-Sri Cafe

ตลาดน้ำอัมพวา

ตลาดน้ำอัมพวา

ตลาดน้ำอัมพวา เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวอัมพวาที่มาแล้วยังไงก็ต้องแวะมา โดยตั้งอยู่ริมคลองใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม จังหวัดสมุทรสงคราม เปิดให้บริการทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ จะเริ่มคึกคัก ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ตลอดทั้งสองข้างทางมีร้านค้าหลากหลายทั้งของคาวของหวาน ของกินของใช้ ของที่ระลึก ซึ่งมีขายทั้งบนบก และทางเรือ รวมถึงอาหารพื้นบ้านที่พ่อค้าแม่ค้าต่างพายเรือมาขายให้เลือกซื้อเลือกชิมกัน นอกจากจะดูมีเสน่ห์ ได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบไทยๆ แล้ว ยังเป็นเหมือนสวรรค์ของนักกินเลยทีเดียว

สำหรับเมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาด คือ อาหารทะเลย่าง ปลาหมึกกุ้ง หอย ปู ที่ย่างกันสดๆ บนเตาพร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บ และของฝากที่ขาดไม่ได้ก็คือ ปลาทูแม่กลอง นั่นเอง (ของแท้ต้องหน้างอ คอหักนะจ้ะ)

ตลาดน้ำอัมพวาเปิดกี่โมง

เปิด : วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์
เวลา : เปิดตั้งแต่ 9.00 – 20.30น
* แต่จะเริ่มคึกคัก ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป

วัดจุฬามณีสมุทรสงคราม

วัดจุฬามณี ตั้งอยู่ริมน้ำอัมพวาใกล้กับคลองผีหลอก ได้ถูกสร้างขึ้นมาในสมัยของกรุงศรีอยุธยาตอนปลายในช่วงของรัชสมัยพระเจ้าปราสาททอง วัดนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก สามารถมาสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอพรไม่ว่าจะขอเลขเด็ด โชคลาภต่างๆ หรือความก้าวหน้าในการงาน วัดนี้มีให้หมด

สถานที่สำคัญภายใน วัดจุฬามณี

โดยถ้าใครมาวัดนี้จะต้องไม่พลาดสิ่งที่น่าสนใจ ทั้งหมด 3 สิ่งด้วยกันค่ะ นั่นก็คือ

  1. สังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของ หลวงพ่อเนื่อง โกวิท อดีตเจ้าอาวาสวัดจุฬามณี พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ประดิษฐานอยู่ในโลงแก้วตั้งไว้บนมณฑปให้ผู้ศรัทธาได้กราบไหว้สักการะ
  2. อุโบสถจตุรมุข หินอ่อน 3 ชั้น มีขนาดกว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร พื้นโบสถ์ปูด้วยหยกสีเขียวจากเมืองการาจี ประเทศปากีสถาน ประตูหน้าต่างด้านในแกะสลักเป็นลายไทย ส่วนด้านนอกเป็นงานฝีมือสมุกรักฝังมุก มีอัลลอยด์ลายดอกไม้เถาทุกประตูและหน้าต่าง ภายในประดิษฐานพระประธานบนฐานสูง
  3. องค์ท้าวเวสสุวรรณ ประดิษฐานอยู่ ณ ลานกลางแจ้งหน้าวัด ซึ่งว่ากันว่าหากใครมาขอพรกับท้าวเวสสุวรรณนั้น ก็มักจะสำเร็จตามคำขอทุกคน จึงทำให้พุทธศาสนิกชนนิยมเดินทางมาที่นี่กันอย่างเนืองแน่น ซึ่งที่วัดจุฬามณีมีทั้งหมด 4 ปางด้วยกัน ได้แก่
  • ท้าวเวสสุวรรณปางพรหมาสูติเทพ พระพักตร์แบบพรหม พระหัตถ์ถือดอกบัว และแว่นสุริยกานต์ (องค์ปูนปั้นสีขาว)
  • ท้าวเวสสุวรรณปางเทพบุตร มีพระพักตร์เป็นเทวดา (เป็นเทพบุตรหน้าเหมือนมนุษย์ แต่มีลายพระโอษฐ์) ยืนถือกระบองแบบเหลี่ยม
  • ท้าวเวสสุวรรณปางจาตุมหาราช พระพักตร์ยักษ์ยืนถือกระบองแบบเกลียว
  • ท้าวเวสสุวรรณปางมนุษย์ มีพระพักตร์เหมือนเทวดา (ไม่มีลายพระโอษฐ์) ยืนถือกระบองแบบเกลียว

วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม ประวัติโดยย่อ

วัดจุฬามณี เดิมมีชื่อเรียกว่า วัดแม่เจ้าทิพย์ สร้างมาแต่รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2172–2190 ตามประวัติว่าท่านท้าวแก้วผลึก (น้อย) เป็นผู้สร้าง

ในช่วงสงครามกรุงศรีอยุธยากับพม่า ท่านนาค (ต่อมาได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี) พระอัครชายาเดิมในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ขณะทรงครรภ์แก่ ได้หลบซ่อนพม่าอยู่ในป่าทึบหลังวัดจุฬามณี และได้มีประสูติการท่านฉิม (พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) คาดว่าสถานที่ประสูติน่าจะใกล้ต้นจันทน์อันเป็นนิวาสถานหลังเก่าของท่านเศรษฐีทอง อีกทั้งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ (แก้ว) พระพี่นางองค์ที่ 2 ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ก็ได้หลบภัยพม่ามาอาศัยอยู่กับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชด้วย ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างทรงพระครรภ์แก่และได้มีพระประสูติการพระธิดาในป่าหลังวัดจุฬามณีด้วยเช่นกัน คือสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี

ในสมัยหลวงพ่อแช่ม ท่านได้ริเริ่มปลูกสร้างเสนาสนะสงฆ์และสร้างศาลาการเปรียญจนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยเมื่อปี พ.ศ. 2463 หลังจากนั้นพระเนื่อง โกวิโท ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อไป ซึ่งต่อมาก็คือพระครูโกวิทสมุทรคุณ (เนื่อง โกวิโท) จนเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2510 หลวงพ่อเนื่องสร้างอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเก่าที่เสื่อมโทรม ต่อจากนั้นพระอาจารย์อิฏฐ์ ภทฺทจาโร ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดจุฬามณีด้วยวัยเพียง 32 ปี ท่านได้สร้างอุโบสถของหลวงพ่อเนื่องที่ยังค้างอยู่ ปูพื้นอุโบสถชั้นบนสุดที่ยังค้างอยู่ด้วยหินหยก จากการาจี ประเทศปากีสถาน จนแล้วเสร็จ

คาถาบูชา ท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี

ตั้งนะโม 3 จบ

(ระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดามารดา ครูอาจารย์)

ปุตตะ กาโม ละเภปุตตัง ธะนะกาโมละเภธะนัง อัตถิกาเย กายะยายะ เทวานัง ปิยะตัง สุตวาฯ

อิติปิโส ภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ มะระณังสุขัง อะหังสุคะโต นะโม พุทธายะฯ

ท้าวเวสสุวรรณโณ จตุมหาราชาชิกา ยักขะพันตาภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อรหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธายะฯ

ของไหว้ท้าวเวสสุวรรณ มีอะไรบ้าง

สำหรับของไหว้ที่ควรเตรียมไว้เพื่อสักการบูชาท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี ได้แก่ ธูป 9 ดอก ดอกกุหลาบ 9 ดอก และผลไม้ 5 อย่าง ในส่วนของผลไม้ที่นำมาไหว้นั้น อาจเลือกจากผลไม้ดังต่อไปนี้

  • กล้วย หมายถึง การมีลูกหลานมีบริวารมากมาย
  • สับปะรด หมายถึง มีความรอบรู้และสายตากว้างไกล
  • ส้ม หมายถึง มีโชคมีลาภ ทำสิ่งใดก็ราบรื่น
  • องุ่น หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองงอกงาม
  • แอปเปิล หมายถึง มีอายุยืนยาว และมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

แต่ถ้าไม่สามารถหาผลไม้ในข้างต้นได้ อาจเลือกใช้ผลไม้ประเภทอื่นทดแทน อาทิ สาลี่, ลําไย, ลิ้นจี่, ทับทิม, ขนุน หรือแก้วมังกร เป็นต้น

ท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี รุ่นไหนดี

วัดจุฬามณีนั้นมีวัตถุมงคลท้าวเวสสุวรรณให้เลือกบูชาหลายรุ่น โดยแบ่งเป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือ

1. เหรียญหรือรูปหล่อท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี

ท้าวเวสสุวรรณของที่วัดนี้จะมีให้บูชา 2 หน้า ด้วยกัน คือ หน้ายักษ์และหน้าเทพ ซึ่งจะมีจุดประสงค์ในการบูชาที่แตกต่างกัน

  • หน้ายักษ์ เพื่อคุ้มครองให้แคล้วคลาด ปลอดภัยจากภัยอันตรายต่าง ๆ ป้องกันสิ่งไม่ดีอย่างคุณไสยมนต์ดำได้เป็นอย่างดี
  • หน้าเทพ เพื่อเมตตามหานิยม ช่วยส่งเสริมให้ผู้บูชาประสบความสำเร็จในเรื่องความรัก มีผู้คนให้ความนิยมชมชอบให้การอุปถัมภ์ค้ำจุนมากขึ้น

2. ผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณ

โดยแผ่นผ้ายันต์จะมีตั้งแต่ขนาดใหญ่สำหรับนำไปใส่กรอบจนถึงขนาดเล็กที่สามารถพกติดกระเป๋าได้สะดวก รวมไปถึงมีสีสันให้เลือกหลากหลาย เช่น สีเหลือง สีแดง หรือสีขาว ฯลฯ ซึ่งจุดเด่นของผ้ายันต์นอกจากจะพกพาหรือบูชาสะดวกแล้ว ยังราคาย่อมเยาว์อีกด้วย

ท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี รุ่นยอดฮิต

  • ท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี รุ่นสยบไพรีพินาศ
    รูปแบบ : เหรียญ
    ใบหน้า : หน้ายักษ์
    พุทธคุณ : ขจัดอุปสรรคทั้งหลาย เสริมดวงให้ดีขึ้น คุ้มครองให้ปลอดภัย
  • ท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี รุ่น อุดมทรัพย์มงคล
    รูปแบบ : รูปหล่อขนาดเล็ก
    ใบหน้า : หน้ายักษ์
    พุทธคุณ : ทรัพย์สินอุดมสมบูรณ์ ค้าขายร่ำรวย
  • เหรียญเนื้อผงไม้ไผ่สีทอง รุ่นบุญอีสาน
    รูปแบบ : เหรียญ
    ใบหน้า : หน้ายักษ์
    พุทธคุณ : แคล้วคลาดปลอดภัยและค้าขายร่ำรวย
  • ท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี รุ่นมีทรัพย์เพิ่ม
    รูปแบบ : เหรียญ
    ใบหน้า : หน้ายักษ์
    พุทธคุณ : เงินทองไหลมาเทมา

ท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี ขอพรเรื่องอะไร

ตามความเชื่อ “ท้าวเวสสุวรรณ” หรือที่ภาษาพราหมณ์เรียก “ท้าวกุเวร” มีลักษณะเป็นยักษ์และถือตะบองไว้ในมือ เป็นหนึ่งในท้าวโลกบาลผู้รักษาคุ้มครองโลกทั้ง 4 ทิศ ทั้งยังคอยคุ้มครองดูแลโลกมนุษย์ไม่ให้ยักษ์และสิ่งชั่วร้ายมารังควาน ถือว่าท้าวเวสสุวรรณเป็นเทพที่คุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย ขจัดสิ่งชั่วร้าย รวมถึงให้พรเรื่องโชคลาภและความมั่งคั่งร่ำรวย ด้วยเหตุนี้เองผู้คนจำนวนไม่น้อยจึงเลือกเดินทางไปไหว้พระขอพรกับท้าวเวสสุวรรณอย่างเนืองแน่น

  1. ปางพรหมาสูติเทพ : เป็นองค์ปูนปั้นประทับนั่งสีขาว ประทานพรในเรื่องของโชคลาภ การงาน และการเงิน
  2. ปางจาตุมหาราช (ปางยักษ์) : ซึ่งตั้งเด่นอยู่กึ่งกลางทั้งสี่ปาง โดยปางนี้จะประทานพรให้ผู้ที่ศรัทธาในเรื่องของการขจัดสิ่งชั่วร้าย คุ้มครองให้แคล้วคลาด สำหรับใครตกปีชงหรือรู้สึกว่ากำลังดวงตกอยู่ แนะนำให้มาไหว้ท้าวเวสสุวรรณปางยักษ์นี้
  3. ปางเทพบุตรสูติเทพ : หรือที่นิยมเรียกกันว่า “หน้าเทพ” เป็นองค์สีทองอร่าม ประทานพรในเรื่องของความรัก เมตตามหานิยม
  4. ปางมนุษย์ : ปางนี้จะช่วยให้ดำเนินชีวิตราบรื่น ทำสิ่งใดไม่มีอุปสรรค

วัดจุฬามณีเปิด – ปิดกี่โมง

สามารถเดินทางมาได้ทั้งทางบก-ทางน้ำ ตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น.
– ท้าวเวสสุวรรณโณ ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ทั้ง 2 จุด กราบสักการะได้ เวลา 06.00-24.00 น.
– แผนกวัตถุมงคล เปิด 09.00-18.00 น.

ที่เที่ยวในสมุทรสงคราม

ในขากลับเราได้แวะไปสักการะที่วัดหลวงพ่อบ้านแหลม และซื้อของกินที่ตลาดร่มหุบ ซึ่งเป็นทางผ่านก่อนจะกลับกรุงเทพ

หลวงพ่อบ้านแหลม วัดเพชรสมุทรวรวิหาร

หลวงพ่อบ้านแหลม เป็นพระพุทธรูปยืน ปางอุ้มบาตร สูงประมาณ 2 เมตร 80 เซนติเมตร หล่อด้วยทองเหลืองปิดทอง ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถวัดเพชรสมุทรวรวิหาร หรือเรียกกันติดปากว่า วัดบ้านแหลม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญของชาวเมืองแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม หลวงพ่อบ้านแหลม มีความสัมพันธ์กับตำนานหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร และหลวงพ่อโต วัดพลับพลาชัยชนะสงคราม ทั้งยังมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของการขอพรให้สมปรารถนาเช่นเดียวกันด้วย

เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 น. – 16.30 น.

ตลาดร่มหุบ

ตลาดร่มหุบ

ตลาดร่มหุบ หรือ ตลาดแม่กลอง หนึ่งในตลาดขึ้นชื่อของ สมุทรสงคราม เป็นตลาดที่อันซีน ไม่มีที่ไหนเหมือนแน่นอน เพราะตลาดตั้งอยู่ติดกับ สถานีรถไฟแม่กลอง และจะมีรถไฟวิ่งผ่ากลางตลาด ซึ่งเวลารถไฟมานั้น พ่อค้าแม่ค้าก็จะต้องยกของแบกสัมภาระหลบ หุบร่ม เก็บกันสาด พอรถไฟผ่านไป ก็กางร่มเหมือนเดิมและขายของได้ต่อ จึงเป็นที่ตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จนเป็นที่เที่ยวยอดฮิตที่ใครๆก็ต้องแวะมาเช็คอินถ่ายรูปกันสักครั้ง

สำหรับภายในตลาดนั้นก็มีร้านค้าอยู่เยอะมากขายตั้งแต่ของแห้ง ของสด และของฝากขึ้นชื่อแม่กลอง เช่น กะปิคลองโคน หอยหลอด หอยดอง ปลาหมึกแห้ง ผลไม้ รวมไปถึง ปลาทูแม่กลอง ด้วย หากใครได้ไปเที่ยวอัมพวาแล้วก็อย่าลืมแวะไป ตลาดร่มหุบ นอกจากจะได้แชะภาพถ่ายรูปแบบอันซีนแล้ว ยังได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วย

ตลาดร่มหุบ รถไฟมากี่โมง

โดยระยะเวลาที่รถไฟจะผ่านมานั้น จะมีทั้งหมด 2 ครั้งต่อวัน คือตอนเวลาที่รถไฟจะผ่านสถานีแม่กลอง 08.30 น. และเวลาที่รถไฟจะออกจากสถานีแม่กลอง 15.30 น.

ตลาดร่มหุบ ของกินมีอะไรบ้าง

ตลาดร่มหุบนั้นเป็นตลาดสดที่มีอาหารทะเลสดๆ ขายมากมาย โดยที่คนนิยมซื้อกลับไปฝากหรือจะซื้อไปทำกินเองวันหลังหลักๆก็คือ ปลาทูแม่กลอง ซึ่งนับเป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรสงครามเลยทีเดียว

ร้านลุงขันธ์

ร้านอาหารอัมพวา

สุดท้ายแล้วในทริปที่เที่ยวอัมพวา ก่อนที่จะกลับกรุงเทพจริงๆ เรามาจบที่ร้านอาหารลุงขันธ์ ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมทะเล ตรงดอนหอยหลอด หน้าศาลกรมหลวงชุมพร รสชาติอาหารนับว่าใช้ได้ ราคาก็เหมือนร้านอาหารทะเลทั่วๆไป นับว่าเป็นอีกร้านนึงที่น่ามาลองหากได้แวะมาดอนหอยหลอด

กิจกรรมยอดฮิต ณ อัมพวา

1. ล่องเรือชมหิ่งห้อย

กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมกันมากๆ เมื่อมาเที่ยวอัมพวา ก็คือ การล่องเรือชมหิ่งห้อย นั่นเอง โดยเราจะล่องเรือท่ามกลางความมืด สายลมเย็นๆ ปะทะหน้า สูดอากาศดีๆ พร้อมชม หิ่งห้อย ที่ส่องแสงระยิบระยับบนต้นลำพูตลอดทาง ซึ่งทางชุมชนตลาดอัมพวา จะมีการจัดรอบเรือไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจ

2. ล่องเรือไหว้พระที่อัมพวา

ล่องเรือไหว้พระ 5 วัด ริมคลองอัมพวา โดยวัดริมคลองอัมพวามีอยู่หลายวัดด้วยกัน สามารถเลือกได้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง เช่น วัดบางแคใหญ่ วัดบางแคกลาง วัดบางนางลี่ใหญ่ วัดท้องคุ้ง วัดบางเกาะเทพศักดิ์ วัดเกษมสรณาราม วัดบางกุ้ง เป็นต้น ราคาเหมาลำประมาณ 500 บาท นั่งได้ 10 คน ถ้าไม่ได้เหมาจะคนละ 50 บาท (เที่ยวรวมกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ) ท่าเรืออยู่ที่ตลาดน้ำอัมพวา

3. ตักบาตรพระริมน้ำยามเช้า

เนื่องจากอัมพวาเป็นชุมชนริมคลอง พระสงฆ์จึงบิณฑบาตทางเรือแตกต่างจากพระสงฆ์ที่อื่นที่เดินบิณฑบาต การตักบาตรพระริมน้ำยามเช้าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมอิ่มบุญแบบย้อนยุคที่ห้ามพลาด แต่สำคัญเลยคือ การจะทำกิจกรรมนี้ได้คุณจะต้องจองที่พักอัมพวา เพื่อมารอพระสงฆ์ที่จะพายเรือมาในยามเช้านั่นเอง

 

บอกให้เพื่อนของคุณทราบ